ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ทุกคนย่อมมีเวลาที่ต้องการวันหยุดแบบที่ไม่ได้วางแผนไว้ก่อนเพื่อพักผ่อนร่างกายและจิตใจ โชคร้ายที่ที่ทำงานของคุณคงไม่ค่อยปลื้มนักถ้าคุณจะลาหยุดกะทันหัน แม้จะมีเหตุผลที่ดีก็ตาม โชคดีที่ยังมีบางอย่างที่คุณสามารถทำได้ในสถานการณ์เช่นนี้ นั่นก็คือ การลาป่วย แน่นอนว่า นี่ไม่ใช่วิธีที่จะทำได้บ่อยๆ แต่มันก็ช่วยให้คุณได้พักผ่อนในเวลาจำเป็นได้อย่างดี ในการที่คุณจะโทรไปลาป่วย คุณจะต้องทำให้เพื่อนร่วมงานของคุณเชื่อซะก่อนว่าคุณป่วยจริงๆ เมื่อวันก่อน และโทรหาหัวหน้าของคุณ เพื่อแสดงให้ดูเหมือนว่าคุณรู้สึกเสียใจจริงๆ ที่ต้องหยุดอยู่บ้านเพื่อรักษาตัว โดยไม่แสดงออกมากเกินไป

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ลงมือโทร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. โทรหาหัวหน้า หรือเจ้านายของคุณในตอนเช้าวันถัดมา. อย่าปล่อยจนสาย ยิ่งคุณบอกหัวหน้าเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีเท่านั้น นอกจากนี้ ในตอนเช้าหลังตื่นนอนใหม่ๆ เสียงของคุณจะแหบมากกว่า ทำให้ดูน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น ข้อดีอีกอย่างคือ ถ้าคุณโทรไปเร็ว คุณอาจจะเจอวอยซ์เมลของหัวหน้าคุณ หรือโทรไปเจอตอนที่หัวหน้าไม่ทันตั้งตัว ถ้าคุณโทรช้าไป มันจะดูเหมือนว่าคุณไม่ได้คิดถึงอารมณ์ของหัวหน้าคุณเลย
    • กระชับบทสนทนาให้สั้น แม้ว่าการรู้จัก "อาการป่วย" ของคุณดีจะช่วยให้คุณไม่ประหม่า แต่อย่าลืมว่า เรื่องราวเหล่านั้นมันก็เป็นแค่เรื่องที่สร้างขึ้นมาจากคนโกหก อย่าลงรายละเอียดเยอะไป แค่บอกว่าคุณรู้สึกไม่ค่อยดี และจะไม่เข้าไปทำงานวันนี้ ให้แค่ข้อมูลที่จำเป็นพอที่จะทำให้หัวหน้าเชื่อคุณ เช่น การบอกว่า "ฉันไม่ได้นอนเลยทั้งคืน" หรือ "ฉันรู้สึกว่าท้องฉันผิดปกติมาก"
    • คุณอาจจะบอกว่า "ฉันรู้ว่าฉันน่าจะบอกอะไรสักหน่อย เย็นเมื่อวานนี้ แต่ฉันคิดว่ามันอาจจะดีขึ้นถ้าได้นอนพัก" โดนไม่ให้ผิดสังเกตเกินไป ทำจุดในการแสดงความรู้สึกว่าคุณคาดหวังที่จะไปทำงานได้มากแค่ไหน
  2. ขณะเดียวกันคุณก็ไม่ควรแสดงออกมาจนเกินไปเวลาที่โทรหาหัวหน้าของคุณ มันจะไม่ทำให้คุณเจ็บที่จะฟังดูเหมือนคนป่วยนิดๆ จริงๆ นอกจากนี้ การมีเสียงแหบๆ จากการโทรหาในตอนเช้าตรู่ คุณสามารถที่จะสูดน้ำมูก หรือไอเป็นครั้งคราว ให้หัวหน้าของคุณเข้าใจว่าคุณกำลังป่วยโดยไม่ต้องทำมันมากเกินไป คุณอาจจะคุยให้ช้าลง และเบาลงเล็กน้อยก็ได้เช่นกัน เพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณไม่แข็งแรงเต็มที่ ให้ฝึกการทำเช่นนี้ออกมาดังๆ เพื่อที่มันจะได้ฟังดูน่าเชื่อถือขึ้น
    • ถ้าหากคุณต้องการทำให้เสียงแหบมากเป็นพิเศษ ให้คุณกรี๊ดใส่หมอนเป็นเวลาประมาณ 10 วินาที ก่อนที่คุณจะโทร แต่การทำเช่นนี้จะทำให้คุณเจ็บคอ เพราะฉะนั้นทำให้แน่ใจว่ามันคุ้มกัน
    • คุณอาจจะแกล้งทำเป็นมึนงง ล่องลอยนิดๆ ถ้าหากคุณดูเป๊ะเกินไป หรือดูพร้อมที่จะตอบคำถามได้อย่างรวดเร็วมาก เขาอาจจะไม่เชื่อว่าคุณป่วยก็ได้
  3. หัวหน้าของคุณเป็นคนจู้จี้หรือเปล่า? ให้ลองคิดดูว่าคำถามอะไรบ้างที่เขาอาจจะถาม เช่น ถ้าคุณทำงานเกี่ยวกับการให้บริการอาหาร หัวหน้าคุณอาจจะถามว่าอาการของคุณสามารถติดต่อได้ง่ายแค่ไหน หรืออาจถามว่าคุณได้ลองกินยาอะไรที่อาจทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นพอที่จะเข้ามาทำงานได้หรือยัง คำตอบที่ดีที่สุดคือ คุณคิดว่าคุณสามารถแพร่เชื้อได้ และคุณได้ลองทุกทางแล้ว (ยาแก้ปวด ลดกรด ยาน้ำต่างๆ) แต่ก็ไม่ดีขึ้นเลย
    • ให้บอกว่าคุณได้โทรไปหาหมอแล้ว แต่กำลังรอให้เขาโทรกลับมายืนยันวันนัดอีกที เพราะตอนนี้ถูกจองเต็มแล้ว ในช่วงที่หวัดกำลังระบาด มันอาจใช้เวลาหลายวันก่อนที่เขาจะสามารถจัดหาคิวให้คุณเข้ามาตรวจได้ หากเจ้านายของคุณขอใบรับรองหลังจากที่คุณกลับไปทำงาน ให้บอกว่าคิวนัดของคุณยังอีกหลายวันกว่าจะถึง เพื่อให้คุณมีเวลาที่จะไปหาหมอ
  4. เมื่อคุณคุยกับหัวหน้าเสร็จ ให้พยายามทิ้งท้ายให้ดูน่าประทับใจเท่าที่ทำได้ เช่นพูดว่า คุณจะพยายามรักษาตัวให้ดีที่สุดเพื่อที่จะไปทำงานในวันต่อไปได้ และรู้สึกซาบซึ้งที่หัวหน้าเข้าใจคุณอย่างดี แสดงให้เห็นว่าคุณมีความตั้งใจในการทำงานแค่ไหน และอยากจะกลับไปทำงานจริงๆ โดยไม่แสดงออกมากเกินไป ทำให้หัวหน้ารู้สึกว่าคุณรู้สึกเสียใจจริงๆ ที่ต้องลาหยุด ไม่ใช่เพราะคุณอยากจะอยู่บ้านดูทีวี และก็ทิ้งงานไป
    • คุณอาจจะบอกหัวหน้าว่า หากมีอะไรให้ถามคุณได้ ถ้าคุณคิดว่าเขาต้องการความช่วยเหลือจากคุณจริงๆ ถ้าหากคุณโอเคที่จะถูกรบกวนระหว่างวันป่วยปลอมๆ ของคุณ คุณอาจพูดว่า "ฉันคงจะนอนอยู่บนเตียงทั้งวัน ถ้าหากคุณต้องการให้ช่วยอะไร โทรหาฉันได้นะ" แต่ให้พูดเช่นนี้ กรณีที่คุณคิดว่าหัวหน้าของคุณคงจะลำบากจริงๆ ถ้าไม่มีคุณเท่านั้น
    • จบการสนทนาด้วยการขอบคุณหัวหน้าของคุณที่มีความเห็นอกเห็นใจกันอย่างดี
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

ตามน้ำไปเรื่อยๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อย่าเดินไปมาในที่ทำงานในสภาพที่ดูแข็งแรงเต็มร้อยหลังจากที่คุณเพิ่งลาป่วยไป แกล้งทำเป็นว่าคุณกำลังฟื้นสภาพจากอาการป่วยของคุณอยู่ ฮึดน้ำมูกออกสัก 2-3 ครั้ง หรือแกล้งไอเบาๆ คุณไม่จำเป็นต้องแสดงเยอะเกินไป หรือทำตัวเป็นเหมือนพวกผู้พลีชีพเพื่อศาสนาเพื่อกลับมาทำงาน อย่าพูดถึงอาการป่วยของคุณ และปล่อยให้คนอื่นๆ ถามอาการคุณ แสดงให้ดูสมจริงด้วยการตอบประมาณว่า “ก็รู้สึกดีขึ้นมากแล้วล่ะ” หรือ “แค่ต้องพักผ่อนอีกสักนิด เดี๋ยวก็น่าจะหายดีแล้วล่ะ”
    • ถ้าคุณอยากให้ดูสมจริงเป็นพิเศษ ให้นอนเพียงเล็กน้อยในคืนก่อนหน้าเพื่อที่เมื่อคุณมาทำงานแล้วจะได้ดูโทรม และเหนื่อยล้า มันจะช่วยส่งเสริมความน่าเชื่อถือของคุณสำหรับครั้งต่อไปที่คุณโทรมาลาป่วย (และเป็นข้ออ้างในการนอนดึก)
    • สงวนท่าทีมากกว่าปกติเล็กหน่อย อย่าทำตัวเป็นมิตรเป็นพิเศษ หรือคุยกับเพื่อนร่วมงานไปทั่ว และปฏิเสธคำชวนต่างๆ จำไว้ว่าคุณยังต้องรักษาสุขภาพให้แข็งแรง
  2. คุณอาจจะคิดว่าคุณสนิทกับเพื่อนร่วมงานของคุณ และเขาจะไม่หลุดปากออกไป คุณควรระวังในการป่าวประกาศออกไปว่าคุณแกล้งป่วย เพื่อนร่วมงานของคุณอาจจะไม่ได้เห็นด้วยกับคุณ และมองว่าคุณขาดความรับผิดชอบ หรือน่ารำคาญ ยิ่งกว่านั้น หากมีใครพูดเล่าในสิ่งที่คุณพูดออกไป และรู้ไปถึงหัวหน้าของคุณ คุณอาจไม่ได้แค่จะเจอปัญหาเท่านั้น แต่จะไม่สามารถแกล้งป่วยได้อีกเลย
    • ยิ่งกว่านั้น การถูกเรียกไปคุยเรื่องแกล้งป่วย จะทำให้หัวหน้าของคุณสงสัยมากขึ้นในครั้งต่อไปที่คุณไม่สบายจริงๆ คุณคงไม่อยากที่จะต้องคอยแก้ตัวปกป้องตัวเองตลอดเวลาที่ทำงาน
    • เฮ้ ใครๆ ก็ต้องการวันหยุดพักผ่อนจากการทำงานบ้างทั้งนั้นล่ะ และก็ไม่มีการตัดสินกันด้วย อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณควรจะไปคุยโอ้อวดเรื่องนี้ เพราะมันแสดงถึงว่าคุณไม่ได้ตั้งใจทำงานอย่างจริงจัง
  3. หลังจากที่โทรลาป่วย คุณควรทำตัวดีๆ กับหัวหน้าของคุณเมื่อคุณกลับมาทำงานอีกครั้ง คุณไม่จำเป็นต้องพูดถึงอาการป่วย หรือขอบคุณหัวหน้าที่เข้าใจ แต่คุณควรตั้งใจทำงานด้วยทัศนคติที่ดี และทำให้หัวหน้าของคุณรู้สึกดี ทำให้เขารู้สึกว่าคุณเป็นพนักงานที่ดีแค่ไหน และอย่าทำให้หัวหน้าของคุณเกิดความสงสัยแม้แต่น้อยว่าคุณกำลังโดดงานอยู่
    • คุณไม่จำเป็นจะต้องทำตัวเป็นมิตรเกินเหตุ หรือพร่ำเพ้อถึงว่าคุณรักงานของคุณแค่ไหนและมันมีความหมายมากมายต่อชีวิตคุณอย่างไร
  4. หลังจากที่คุณกลับมาทำงานจากการแกล้งป่วยแล้ว คุณควรพยายามนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดออกมา ไม่ใช่มาสายชั่วโมงหนึ่ง หรือนั่งโทรศัพท์ส่วนตัวคุยเล่นอยู่สองชั่วโมง หรือวางแผนจองวันหยุดถัดไป คุณควรจะพยายามทำงานให้เต็มเวลา นัดประชุม ตอบเมลอย่างรวดเร็ว และทำอะไรก็ตามที่คุณสามารถทำได้ เพื่อรับรองว่าคุณกำลังสร้างความประทับใจให้กับหัวหน้าคุณอยู่
    • คุณอาจชอบที่จะบ่นกับเพื่อนร่วมงานคุณเมื่อมาทำงาน แต่ควรจะบ่นให้น้อยลงและคิดบวกขึ้นอีกหน่อย เมื่อคุณกลับมาทำงาน คุณคงไม่อยากให้หัวหน้าคุณได้ยินคุณบ่นหลังจากที่คุณเพิ่งลาหยุดไป
    • มันโอเคที่จะแกล้งป่วยนานๆ ครั้ง แต่ถ้าคุณติดนิสัยเอื่อยเฉื่อยเป็นปกติแล้วละก็ งานของคุณคงจะไม่มั่นคงอีกต่อไป ให้พยายามทำตัวให้กระตือรือร้นขณะทำงานให้มากเท่าที่ทำได้เมื่อคุณกลับมาทำงาน
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

เตรียมการในการโทร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณอาจจะคิดว่าทุกๆ วันก็เป็นวันที่ดีในการแกล้งป่วย แต่ถ้าคุณตั้งใจที่จะลาป่วยจริงๆ แล้วละก็ คุณควรจะทุ่มเทมากกว่านี้อีกสักหน่อย ถ้าคุณแกล้งป่วยผิดวัน มันจะทำให้เป็นเรื่องยากขึ้นอีกในการทำให้คนอื่นเชื่อคุณ คุณควรทำให้แน่ใจว่าโอกาสเป็นของคุณ ก่อนที่คุณจะเริ่มแผนการของคุณ สิ่งต่อไปนี้เป็นสิ่งที่คุณควรจำใส่ใจไว้:
    • ให้เตรียมตัวเป็นพิเศษ หากคุณต้องการจะโทรไปลาป่วยวันจันทร์ หรือวันศุกร์ เพราะหัวหน้าคุณอาจไม่เชื่อว่าคุณจะป่วยจริงๆ ระหว่างวันหยุดยาว
    • ต้องแน่ใจว่าคุณไม่ได้เพิ่งป่วยไป หรือลาหยุดบ่อยๆ
    • อย่าแกล้งป่วยทันทีหลังจากที่คุณมีการทะเลาะวิวาทที่ทำงาน หรือหลังจากที่คุณบ่นไปเยอะๆ คุณคงไม่อยากให้หัวหน้าของคุณดูแคลนคุณ การป่วยของคุณจะดูน่าเชื่อถือขึ้นอีกเยอะ หากทุกอย่างเป็นปกติดีเยี่ยมครั้งสุดท้ายที่คุณไปทำงาน
    • พยายามอย่าลาหยุดในวันที่คุณไม่ชอบงานในวันนั้น เช่น หัวหน้าคุณอาจจะรู้ว่าคุณเกลียดการประชุมประจำเดือน คุณก็ไม่ควรจะแกล้งป่วยวันนั้น ไม่ว่ามันจะรู้สึกดีแค่ไหนก็ตาม
    • พยายามแกล้งป่วยหากมีคนอื่นที่ทำงานกำลังป่วยอยู่ หรือเป็นช่วงที่หวัดกำลังระบาด เช่นนั้นหัวหน้าของคุณจะไม่สงสัยคุณมากไป เพราะทุกๆ คนก็ป่วยเช่นกัน
  2. ถ้าคุณวางแผนที่จะลาป่วย คุณควรจะพยายามทำเหมือนป่วยในวันก่อนหน้าโดยไม่ทำให้ดูชัดเจนเกินไป อย่าแกล้งไอตลอดทั้งวัน แต่ให้ทำเป็นเหมือนป่วยเล็กน้อยเพราะอากาศไม่ดี และแกล้งทำเป็นสูดน้ำมูกนิดหน่อย เพื่อให้เพื่อนร่วมงานของคุณถามว่า คุณไม่สบายหรือเปล่า ขณะเดียวกันก็ให้ปฏิเสธไป แกล้งทำเหมือนว่าคุณป่วย แต่ปฏิเสธว่าไม่เป็นไร จะทำให้เพื่อนร่วมงานของคุณไม่เกิดการสงสัยว่าคุณแกล้งทำ การปูพื้นไว้ก่อนจะทำให้ดูน่าเชื่อถือขึ้นเมื่อคุณลาหยุดในวันต่อมา
    • ให้สงวนท่าทีในวันนั้นด้วย. หากวันหนึ่งคุณเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง และวันต่อมาก็ลาป่วย คนอาจจะแปลกใจได้ ให้ปฏิเสธคำชวนไปกินข้าวกลางวัน หรือพวกช่วงเวลาพิเศษต่างๆ ในวันก่อนที่จะลาป่วย
    • ลองทำเป็นกินยาแก้ปวด "อย่างแนบเนียน" เวลาที่อยู่กับเพื่อนร่วมงานคุณ
    • ฮึดขี้มูกออกให้บ่อยกว่าปกติ
    • ถ้าคุณทานอาหารกลางวันกับเพื่อนร่วมงานของคุณ อย่ากินอาหารหมดทั้งจาน เพื่อให้ดูเหมือนว่าคุณไม่อยากอาหาร
    • ทำตัวให้ดูกระเซอะกระเซิงเล็กน้อยในวันนั้น ทำผมให้ยุ่งเล็กน้อย อย่าแต่งตัวมาก และแสดงสีหน้า หน้าตาให้ดูเหมือนเหนื่อยเล็กน้อย
  3. แม้ว่าหัวหน้าคุณจะไม่ถามอะไรมาก แต่คุณก็ควรจะรู้ว่าคุณป่วยด้วยโรคอะไรก่อนที่คุณจะโทรไปลา แทนที่จะพูดว่าคุณรู้สึกไม่ค่อยดี ให้พูดว่า คุณเป็นไมเกรน ท้องเสีย หรือแค่เป็นหวัดธรรมดาก็ช่วยให้ฟังดูน่าเชื่อถือขึ้นได้ คุณควรจะเตรียมคำตอบให้พร้อมสำหรับทุกคำถามที่หัวหน้าคุณอาจถาม เช่น เริ่มเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วจะกลับมาเมื่อไหร่ และจะไปหาหมอไหม คุณต้องไม่ทำให้ดูไม่มั่นใจ มิเช่นนั้นหัวหน้าจะสงสัยว่าคุณแกล้งป่วยได้
    • ถ้าคุณอยากลาหยุดหลายวัน ให้เลือกอาการป่วยที่ดูดีหน่อย ไมเกรน หรือโรคกระเพาะอย่างรุนแรงก็สามารถให้คุณลาหยุดสักสองวันหรือมากกว่านั้นได้ เนื่องจากมันสามารถเป็นต่อเนื่องได้เป็นเวลานาน และเป็นได้ทุกเวลา โรคติดเชื้อที่ตา และหวัดลงคอก็สามารถลากได้นานเช่นกัน ไม่ว่าคุณจะเลือกอะไร ให้ทำการศึกษาหาข้อมูลให้ดี เพื่อที่คุณจะสามารถอธิบายอาการของโรคได้อย่างชัดเจน
    • คุณอาจจะลองซ้อมบทสนทนากับเพื่อนสนิทของคุณก่อนเพื่อแน่ใจว่าคุณจะสามารถทำได้สำเร็จ เป็นไปได้ว่าหัวหน้าคุณอาจจะไม่ได้อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับท้องหรือคอของคุณบ้าง แต่ทางที่ดี คุณควรจะเตรียมตัวไว้ให้พร้อมก่อน
  4. อย่าแกล้งป่วย แล้วก็ไปเดินปีนเขากับภรรยา หรือจัดปาร์ตี้ยิ่งใหญ่ให้กับเพื่อนๆ ถ้าหากคุณแกล้งป่วย แล้วทำตัวสังสรรค์ เข้าสังคมมากเกินไป เรื่องจะกลับไปถึงหัวหน้าของคุณได้ ให้โทรไปลาป่วยเฉพาะตอนที่คุณรู้สึกอยากจะนอนพักอยู่บนเตียง หรือแค่ไปรอบๆ บ้านสบายๆ ดีกว่า - เลือกทำในสิ่งที่คุณคิดว่าจะทำ หากคุณป่วยจริงๆ แต่ลบส่วนความรู้สึกป่วยออกไป
    • นอกจากนี้ หากคุณลาป่วยไปใช้ชีวิตนอกบ้าน และกลับไปทำงานสภาพผิวแทนแล้วละก็ มันคงจะดูน่าสงสัยน่าดู
    • ขณะที่คุณลาป่วย คุณควรจะออกจากระบบของโซเชี่ยล มีเดียต่างๆ ที่คุณอยากจะเข้าไปใน "วันที่ป่วย" เพื่อที่หัวหน้าจะได้ไม่ไปสะดุดเห็นภาพของคุณกำลังปีนเขาในระหว่างที่คุณควรจะป่วยอ่อนเพลีย หรือไปแสดงความเห็นที่อาจทำให้สงสัยในสุขภาพของคุณได้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • พยายามอย่าโทรลา "ป่วย" บ่อยเกินไปในวันจันทร์หรือวันศุกร์ - หัวหน้าและเพื่อนร่วมงานคนอื่นมันจะคิดว่าเป็นการยืดวันหยุดยาว การโทรไปลาในวันอังคารจะดูน่าเชื่อถือกว่า และอย่าทำนิสัยลาหยุดในวันสำคัญต่างๆ เช่น วันที่ทีมจำเป็นต้องทำงานล่วงเวลาเพื่อให้ทันกำหนด เพราะมันจะเป็นการทำลายความสัมพันธ์ระหว่างคุณและเพื่อนร่วมงาน โดยเฉพาะหากมีใครมักคนเกิดสงสัยว่าคุณแกล้งป่วย
  • อย่าบอกใครว่าคุณแกล้งป่วย มิฉะนั้นอาจมีใครหลุดปากบอกหัวหน้า หรือคนอื่นๆ ได้ และคุณจะพบกับปัญหา
  • อย่า “วางตาราง” วันลาป่วยล่วงหน้า ถ้าหัวหน้ารู้ว่าคุณบอกคนอื่นไว้เมื่อสองอาทิตย์ก่อนว่าคุณจะป่วยวันนี้ละก็ คุณอาจจะถูกไล่ออกก็เป็นได้
  • ถ้าคุณมีธุระด่วนต้องรีบทำ แต่ก็ยังอยากลาหยุด ให้ไปทำงานในตอนเช้า ทำอะไรที่จำเป็นต้องทำให้เรียบร้อย และอยู่เงียบๆ ถ้าหากใครถามว่าเป็นอะไร แค่บอกว่าคุณรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก เมื่อคุณตัดสินใจจะกลับ ให้เดินไปหาหัวหน้าและบอกว่าคุณป่วย และจะขอกลับบ้านก่อน อย่าถามอะไร เพียงบอกและอธิบายไปว่าคุณได้จัดการงานที่เร่งด่วนสำหรับวันนี้เรียบร้อยแล้ว เพียงเท่านี้หัวหน้าของคุณก็ไม่สามารถที่จะห้ามคุณไม่ให้กลับได้
  • สร้างชื่อเสียงที่ดี ไปทำงานในวันที่คุณไม่สบายจริงๆ เพื่อที่หัวหน้าคุณจะได้ไม่คิดว่าคุณแกล้งป่วย เพื่อจะหนีงาน หลังจากที่คุณโดนไล่ให้กลับบ้านสักสองสามครั้งเพราะป่วยหนัก (และติดต่อ) หัวหน้าคุณจะรู้สึกดีใจเมื่อคุณโทรมาลาป่วย และคิดว่าคุณยอมรับฟังคำแนะนำของทุกคนเพื่อรักษาตัวอยู่บ้านจริงๆ
  • โทรหาหัวหน้าด้วยตัวเอง อย่าให้ใครเป็นคนบอกแทน เพราะสุดท้ายเขาก็จะต้องโทรกลับมาหาคุณ และคุณก็จะต้องสร้างเรื่องทั้งใหม่หมดอีกครั้ง
  • ถ้าคุณและเพื่อนต่างก็ต้องการโทรลาป่วยกันทั้งคู่ พยายามอย่าลาป่วยในวันเดียวกัน
  • ถ้าคุณป่วยจริงๆ และต้องการที่จะเอาใบรับรองแพทย์มายื่น ให้ขอวันกำหนดที่ “กลับมาทำงาน” ยืดออกไปนานกว่าที่จำเป็น และให้กลับมาทำงาน “ก่อนกำหนด” นี่จะทำให้คุณดูเป็นพนักงานที่มีความตั้งใจจริงที่ใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่าที่จำเป็น มันจะมีเอกสารมาให้คุณเก็บไว้ในบันทึกการจ้างงานได้ หากเกิดคำถามใดๆ ขึ้นเกี่ยวกับการใช้วันลาป่วยของคุณในอนาคต (บางบริษัทอาจไม่ยอมให้พนักงานกลับมาทำงานหากยังไม่ถึงกำหนด ถ้าคุณมาก่อนกำหนด หัวหน้าอาจไล่คุณกลับได้)
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าอ้างว่าคนในครอบครัวคุณกำลังป่วยหนักใกล้เสีย เพราะหัวหน้าของคุณสามารถหาความจริงได้ไม่ยาก และคุณก็จะถูกจับได้ว่าโกหก และทำให้คุณหมดความน่าเชื่อถือไป เมื่อมีคนเสียจริงๆ ครั้งหน้าเขาอาจไม่เชื่อคุณอีก
  • ท้ายที่สุดแล้ว หากคุณรู้สึกต้องการวันหยุดมากเกินกว่าที่คุณจะนับได้ ให้ลองพิจารณางานที่คุณทำอยู่ว่า งานที่คุณทำอยู่อาจไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการทำ ทำให้คุณรู้สึกวิตก กังวล และไม่พอใจ ถ้าเป็นเช่นนั้น คุณต้องพิจารณาถึงเรื่องการเปลี่ยนงาน หรือสายงานที่คุณทำอยู่อย่างจริงจัง
  • นายจ้างส่วนใหญ่มีจำนวนจำกัดในการลาหยุดแต่ละช่วง (no-fault absentee program) ตรวจสอบกับฝ่ายบุคคลให้ดีว่าคุณลาหยุดไปกี่วันแล้ว หากคุณลาหยุดเกินกำหนด จะมีบทลงโทษได้ ไม่ว่าคุณจะมีใบรับรองแพทย์หรือไม่ก็ตาม ดังนั้นควรระวังให้ดีในการลาหยุด งานของคุณขึ้นอยู่กับมัน
  • นี่ไม่ใช่วิธีที่ดีนัก เพราะมันอาจทำให้เพื่อนร่วมงานของคุณเครียดโดยใช่เหตุเพียงเพราะคุณโกหก ถ้าหากมีปัญหาอะไรเกี่ยวกับงาน ให้คุยกับหัวหน้าของคุณเป็นการส่วนตัว เพื่อพวกเขาจะช่วยให้คุณผ่านมันไปได้
  • การลาหยุดมีผลกระทบกับเพื่อนร่วมงานทุกคน คิดให้ดีก่อนที่จะทิ้งภาระไว้ให้ผู้อื่น และปล่อยให้ใครบางคนซวนเซ
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างดีๆ ในการลางานอย่างกะทันหันลางานแบบเนียนๆ ให้เจ้านายจับไม่ได้ด้วย 20 ข้ออ้างลางานกะทันหันที่ทำให้การลางานน่าเชื่อถือ
ส่งข้อความลาป่วยหาหัวหน้าอย่างไรให้ดูเป็นมืออาชีพส่งข้อความลาป่วยหาหัวหน้าอย่างไรให้ดูเป็นมืออาชีพ
บอกลาเพื่อนร่วมงานบอกลาเพื่อนร่วมงาน
เขียนอีเมลติดตามผลการสมัครงานเขียนอีเมลติดตามผลการสมัครงาน
หาสปอนเซอร์หาสปอนเซอร์
เป็นดาราหนังโป๊เป็นดาราหนังโป๊
จัดงานเลี้ยงอำลาจัดงานเลี้ยงอำลา
ลาออกอย่างสง่างามลาออกอย่างสง่างาม
ส่งมอบงานต่อส่งมอบงานต่อ
เขียนจดหมายธุรกิจถึงลูกค้าเขียนจดหมายธุรกิจถึงลูกค้า
เขียนแผนกลยุทธ์สำหรับองค์กรเขียนแผนกลยุทธ์สำหรับองค์กร
เขียนแบบประเมินตนเองเขียนแบบประเมินตนเอง
เขียนหนังสือรับรองการทำงานเขียนหนังสือรับรองการทำงาน
เป็นพนักงานต้อนรับที่ดีเป็นพนักงานต้อนรับที่ดี
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

ทีมงานวิกิฮาว
ร่วมเขียน โดย:
นักเขียนในทีมวิกิฮาว
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา

ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 112,248 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 112,248 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา