ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ขณะที่เทคโนโลยีกำลังพัฒนาไปเรื่อยๆ และได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญของชีวิตประจำวันมากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีก็เป็นที่ต้องการมากขึ้นด้วยเช่นกัน วิศวกรซอฟต์แวร์มีหน้าที่ออกแบบและแนะนำการพัฒนาโปรแกรมที่คอมพิวเตอร์ใช้เพื่อช่วยให้ชีวิตของเราทุกคนง่ายขึ้น

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

ทำงานด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์เป็นอาชีพแรกของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. จบการศึกษาด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์หรือสาขาที่เกี่ยวข้อง. โดยส่วนมาก ตำแหน่งวิศวกรซอฟต์แวร์จะกำหนดให้มีปริญญาตรี[1] พื้นการศึกษาด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์จะมีประโยชน์ที่สุดสำหรับการออกแบบและปรับปรุงซอฟต์แวร์ บ่อยครั้งที่ผู้สัมภาษณ์จะถามคำถามเกี่ยวกับโครงสร้างข้อมูลและอัลกอริทึม ดังนั้น การมีพื้นทางทฤษฎีจากปริญญาด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์จะช่วยเตรียมคุณสำหรับงานนี้ได้ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม คุณก็ยังต้องใช้เวลาอยู่พอสมควรในการเขียนซอฟต์แวร์นอกคลาสเรียน เพื่อที่จะได้เรียนรู้ว่าทฤษฎีที่คุณได้ถูกสอนมาจะสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการเขียนซอฟต์แวร์จริงๆ ได้อย่างไร
    • มันเป็นไปได้ที่คุณจะได้รับการจ้างด้วยวุฒิอนุปริญญา หรือด้วยเพียงประสบการณ์จากการเรียนรู้ด้วยตัวเอง หากคุณไปตามเส้นทางนี้ คุณก็ควรสะสมโปรเจกต์ที่เสร็จสมบูรณ์และใช้งานได้จริงซึ่งแสดงให้เห็นถึงทักษะของคุณบนเว็บไซต์เช่น Github คุณยังสามารถหาโปรเจกต์ที่เป็นโอเพนซอร์ซเพื่อช่วยแก้ไขหรือเติมรูปแบบใหม่ๆ ให้ในกรณีที่คุณไม่มีคอนเซ็ปท์ของตัวเอง โอเพนซอร์ซหมายถึงการที่โค้ด (ซอร์ซ) ของซอฟต์แวร์ชิ้นหนึ่งถูกเปิดเผยให้บุคคลภายนอกเห็นได้ (โอเพน) มันทำให้ใครๆ ก็สามารถส่งโค้ดไปให้กับโปรเจกต์หนึ่งๆ และรอให้ได้รับการอนุมัติจากผู้ดูแลโปรเจกต์นั้น การหาโอเพนซอร์ซโปรเจกต์ที่เต็มไปด้วยนักพัฒนาที่ยินดีต้อนรับคุณจะช่วยเร่งพัฒนาทักษะของคุณได้อย่างดีเยี่ยม หลังจากที่คุณได้มีทักษะพื้นฐานมาบ้างแล้ว
    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ
    Gene Linetsky, MS

    Gene Linetsky, MS

    ผู้จัดการด้านวิศวกรรมและผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพ
    จีน ลิเน็ตสกี้เป็นผู้ก่อตั้งแบบสตาร์ทอัพและวิศวกรซอฟท์แวร์ในย่านเบย์แอเรียของซานฟรานซิสโก เขาอยู่ในวงการเทคโนโลยีมากว่า 30 ปีและปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการด้านวิศวกรรมของ Poynt บริษัทเทคโนโลยีที่สร้างจุดขายอัจฉริยะสำหรับธุรกิจต่างๆ
    Gene Linetsky, MS
    Gene Linetsky, MS
    ผู้จัดการด้านวิศวกรรมและผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพ

    การศึกษาวิทยาศาสตร์สาขาใดก็ตาม จะสามารถช่วยให้คุณเขียนโค้ดได้ดีขึ้น จีน ลิเนียทสกี ผู้บริหารทีมวิศวกรซอฟต์แวร์กล่าว: "วิศวกรที่เก่งที่สุดบางคนจบมาจากสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า เพราะมันเป็นสาขาที่สอนให้พวกเขามีวินัยทางความคิด วิศวกรรมซอฟต์แวร์เป็นศิลป์ที่ไม่ยอมให้กับแนวคิดแบบศิลปิน มันต้องอาศัยวินัยเอามากๆ"

  2. แม้ว่าคุณจะยังอยู่แค่ชั้นประถม คุณก็สามารถเริ่มไปก่อนได้เลยด้วยการเรียนรู้การเขียนโปรแกรมด้วยตัวเอง.
    • วิศวกรรมซอฟต์แวร์ไม่ได้มีแค่เรื่องการเขียนโค้ด แต่อย่างน้อย คุณก็จะต้องรู้ภาษาโปรแกรมบ้าง และมีความเข้าใจเชิงลึกว่ามันทำงานอย่างไร ไม่มีความเห็นที่ตรงกันว่าภาษาไหนมีประโยชน์ที่สุด แต่ภาษาที่เป็นที่นิยมกันมากได้แก่:
      • Python
      • Ruby
      • JavaScript
      • C#
      • Java
      • C++
    • ขอให้ทราบว่าภาษาบางภาษาก็ใช้แก้ปัญหาบางอย่างได้ดีกว่าภาษาอื่น ไม่มีภาษาไหนที่ดีกว่าภาษาอื่น ไม่มีภาษาไหนที่ง่ายกว่าภาษาอื่น ภาษาต่างๆ ล้วนแต่ได้รับการเขียนขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาบางประเภท และสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้ดี ในขณะที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาอื่นๆ ได้ดีนัก ทดลองและหาสไตล์ของคุณ ในช่วงแรก ให้จดจ่อไปที่การเขียนโปรแกรมพื้นฐานด้วยภาษาใดภาษาหนึ่งก่อน เมื่อคุณสามารถใช้ภาษาหนึ่งได้อย่างคล่องแคล่วพอสมควรแล้ว ก็เริ่มลองภาษาที่สอง คุณไม่จำเป็นต้องเรียนให้หมดทุกภาษา หาภาษาที่เหมาะกับคุณและฝึกฝนให้เก่งไปเลย!
    • สำหรับเยาวชน MIT (สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์) ได้สร้างเว็บไซต์และเครื่องมือการเขียนโปรแกรมที่ชื่อว่า Scratch เครื่องมือนี้สอนคอนเซ็ปต์การเขียนโปรแกรมโดยใช้รูปภาพสื่อสารแทนตัวอักษรที่ดูยากๆ มันยังมีประโยชน์สำหรับผู้ใหญ่ที่ชอบจดจ่อกับรูปภาพมากกว่าคอนเซ็ปต์ซับซ้อนหรือตัวอักษรด้วย
  3. “อัลกอริทึม” หมายถึงสูตร หรือลำดับการประมวลผลในการแก้ไขปัญหาใดปัญหาหนึ่ง[2] ตัวอย่างทั่วไปได้แก่ การหาเส้นทางสำหรับระยะทางที่สั้นที่สุดระหว่างตำแหน่งสองจุด[3] การหาข้อมูลเฉพาะในคลังข้อมูลขนาดใหญ่ และการจัดระเบียบข้อมูลให้เรียงกันตามต้องการ[4] [5] โครงสร้างข้อมูลก็คือการจัดเรียงข้อมูลในรูปแบบที่ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ง่ายขึ้น[6] ตัวอย่างทั่วไปได้แก่ การจัดเรียงที่ประกอบไปด้วยชุดข้อมูลที่เรียงต่อๆ กันไปตามลำดับ และตารางแฮช ซึ่งจัดเก็บข้อมูลด้วย “key” แทนตำแหน่งในรายการ[7] [8] มุ่งพัฒนาและรักษาทักษะของคุณเอาไว้เพื่อที่คุณจะสามารถทำงานได้อย่างดีที่สุดเมื่อได้เป็นวิศวกรซอฟต์แวร์แล้ว[9]
    • (เป็นทางเลือก) เรียนคณิตศาสตร์ คณิตศาสตร์เป็นส่วนหนึ่งของวิทยาการคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว และความรู้ในเรื่องอัลกอริทึมและโครงสร้างข้อมูลหลายๆ อย่างก็มาจากคณิตศาสตร์ แม้ว่ามันจะไม่ใช่สิ่งที่ขาดไม่ได้ แต่การมีพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ที่แข็งแกร่งจะช่วยเสริมทักษะสำคัญสำหรับวิเคราะห์และออกแบบอัลกอริทึมใหม่ๆ ถ้าคุณอยากเข้าทำงานกับบริษัทที่ทำงานด้านการวิจัยและพัฒนาที่ล้ำสมัย คณิตศาสตร์ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย แต่ถ้าคุณต้องการงานบริษัททั่วๆ ไป คุณก็ไม่ต้องจริงจังกับคณิตศาสตร์ขั้นสูงมากก็ได้
    • วิยุตคณิตเป็นสาขาวิชาที่มีประโยชน์มากเป็นพิเศษ เช่นเดียวกับวิชาคณิตศาสตร์ใดๆ ก็ตามที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์
  4. ระบบการศึกษามักล้าสมัย การปรับปรุงแก้ไขหนังสือเรียนนั้นช้ากว่าการอัพเดทของซอฟต์แวร์ สถาบันการศึกษาให้ความรู้ทางทฤษฎีและวิธีคิดที่อาจเป็นสิ่งจำเป็นต่อความสำเร็จของคุณ คุณจึงควรให้ความสำคัญกับมัน อย่างไรก็ตาม คุณจะสามารถหาเงินได้ก็จากความสามารถในการนำความรู้ทางทฤษฎีมาปรับใช้กับซอฟต์แวร์จริงๆ ซึ่งต้องอาศัยการเรียนรู้เสริม
    • ลองดูเว็บไซต์ StackOverflow StackOverflow เป็นเว็บถาม-ตอบ สำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ คุณสามารถทำการค้นหาโดยการแท็กเพื่อระบุเทคโนโลยี ปัญหาและองค์ประกอบของปัญหา หรือภาษาที่คุณอยากจะปรับปรุง การได้อ่านคำตอบของคนอื่นๆ จะช่วยให้คุณได้เห็นว่าวิศวกรมีวิธีแก้ไขปัญหากันอย่างไรบ้าง การบุ๊คมาร์ควิธีแก้ไขปัญหาที่ฉลาดเอาไว้ก็จะช่วยสร้างชุดเครื่องมือแก้ไขปัญหาของคุณอีกด้วย
    • ใช้เว็บไซต์สำหรับฝึกเขียนโค้ด เว็บไซต์อย่าง CodeWars และ CodinGame มีปัญหาเป็นพันๆ ให้คุณได้ทดสอบความสามารถ
    • หาชุมชนนอกโลกอินเทอร์เน็ตเพื่อช่วยให้คุณได้รับแรงบันดาลใจอย่างต่อเนื่อง พัฒนาเครือค่าย และได้รับคำแนะนำว่าคุณควรจดจ่อการเรียนรู้ของคุณไปที่เรื่องใด เว็บไซต์อย่าง Meetup เป็นแหล่งที่ดีเยี่ยมสำหรับการค้นหาวิศวกรซอฟต์แวร์และเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับอาชีพนี้ ถ้าคุณไม่สามารถหาการนัดพบของวิศวกรทั่วๆ ไปได้ ก็ให้ลองเจาะจงไปที่ภาษา หรือเทคโนโลยีเฉพาะแทน ลองดูตามโซเชียลมีเดียด้วย
  5. วิธีที่ดีที่สุดในการพัฒนาทักษะของคุณก็คือการลงมือใช้มัน ไม่ว่ามันจะเป็นโปรเจกต์มืออาชีพหรือโปรเจกต์ส่วนตัว การออกแบบและเขียนโค้ดซอฟต์แวร์ก็จะสอนคุณได้มากทีเดียว สำหรับนายจ้างหลายๆ คน ผลงานจากการลงมือทำจริงมีความสำคัญมากกว่าเกรดเฉลี่ยหรือความรู้เชิงทฤษฎี[10]
    • ถ้าคุณไม่ได้ตั้งใจจะหาเงินจากซอฟต์แวร์ที่คุณสร้างขึ้นมา ก็ให้มันออนไลน์เลย! การให้ผู้ที่อาจเป็นนายจ้างของคุณได้มีโอกาสเห็นโปรเจกต์ที่คุณสร้าง รวมทั้งโค้ดของโปรเจกต์เหล่านั้น ก็จะช่วยให้พวกเขาสามารถประเมินความสามารถของคุณได้ มันยังเป็นช่องทางที่ดีเยี่ยมที่คุณจะได้รับคำติชมเพื่อช่วยปรับปรุงพัฒนาทักษะของคุณต่อไป
  6. นักศึกษาวิศวกรรมซอฟต์แวร์หลายคนฝึกงานไปด้วยขณะกำลังเรียนอยู่[11] มันเป็นวิธีที่ดีเยี่ยมที่คุณจะได้ลองทำงานจริงและสร้างเครือข่ายกับผู้ที่อาจจะกลายมาเป็นนายจ้างของคุณ หาโอกาสฝึกงานจากเว็บไซต์ประกาศหางาน และการสร้างเครือข่าย
  7. วิศวกรรมซอฟต์แวร์เป็นวงการที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว คุณมีโอกาสสูงที่จะได้รับการจ้างงานทันที แม้ว่าคุณอาจจะต้องเริ่มจากการเป็นโปรแกรมเมอร์ก่อน แล้วค่อยๆ ขยับขยายขึ้นไปสู่การพัฒนาซอฟต์แวร์[12] เริ่มหางานก่อนที่คุณจะเรียนจบ
    • บ่อยครั้งที่สถาบันการศึกษาจะช่วยศิษย์เก่าหางาน พูดคุยกับอาจารย์ เจ้าหน้าที่ของภาควิชา และผู้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับอาชีพถึงเรื่องการหางานของคุณ
    • งานส่วนมากมาจากเครือข่ายความสัมพันธ์[13] ใช้ข้อมูลการติดต่อส่วนตัวที่คุณมี และไปพบเจอกับคนในสายงานของคุณผ่านการนัดพบทางอาชีพและงานประชุมต่างๆ
    • เข้าไปดูเว็บไซต์หางานอย่างสม่ำเสมอ สร้างโปรไฟล์และโพสต์ประวัติย่อของคุณบนเว็บไซต์อาชีพ และใช้มันเพื่อการสร้างเครือข่าย รวมทั้งสำหรับการสมัครงานต่างๆ ด้วย
  8. อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เปลี่ยนแปลงไปอยู่เสมอ ตามให้ทันด้วยการพัฒนาความรู้และทักษะที่ใช้งานได้จริง แล้วคุณก็จะมีโอกาสมากมายในการกำหนดทิศทางอาชีพของคุณ ต่อไปนี้คือวิธีบางอย่าง ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสทางการงานของคุณได้
    • เข้าร่วมองค์กรวิชาชีพเพื่อสร้างเครือข่ายสัมพันธ์
    • พิจารณาการศึกษาต่อในระดับปริญญาโทถ้าคุณมีแผนระยะยาวในสายอาชีพนี้ แม้ว่าปริญญาโทจะไม่ได้เป็นข้อกำหนดสำหรับตำแหน่งงานส่วนใหญ่ แต่มันก็สามารถช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณได้ทำงานกับผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ ในตำแหน่งบริหาร หรืองานเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ที่ฝังตัวในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (embedded software) [14] นอกจากนี้ ปริญญาโทยังสามารถช่วยเพิ่มเงินเดือนของคุณได้ตั้งแต่ช่วงต้นๆ ของการทำงาน
    • ใบประกาศนียบัตรอาจเป็นประโยชน์สำหรับงานบางสาขา และในบางภูมิภาค แต่ก็อาจทำให้คุณเป็นที่น่าสนใจ “น้อยลง” ได้สำหรับที่อื่นๆ [15] พูดคุยกับวิศวกรในสาขาที่คุณเชี่ยวชาญก่อนจะตัดสินใจลงเรียน บ่อยครั้งที่องค์กรแบบเก่าจะชื่นชอบประกาศนียบัตร แต่บริษัทสตาร์ทอัพ หรือบริษัทหัวก้าวหน้าก็อาจมองว่ามันเป็นเรื่องเสียเวลาได้ อย่างไรก็ตาม มีข้อยกเว้นเสมอ บางประเทศก็จะมีมุมมองต่อประกาศนียบัตรที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น คุณควรพยายามพูดคุยกับวิศวกรซอฟต์แวร์ และทำความเข้าใจว่าอุตสาหกรรมในที่ที่คุณอยู่นั้นเป็นอย่างไร
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

เปลี่ยนมาทำอาชีพเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. งานด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์มีการเติบโตของงานที่ดีเลิศ วิศวกรรมซอฟต์แวร์เป็นที่ต้องการเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับการเขียนโปรแกรมพื้นฐานทั่วๆ ไป รายได้เฉลี่ยของนักพัฒนาซอฟต์แวร์อยู่ที่ประมาณ 80,000 ถึง 100,000 เหรียญสหรัฐต่อปี ในประเทศสหรัฐอเมริกา[16] [17]
  2. การออกแบบและเขียนโค้ดซอฟต์แวร์ที่ใช้งานได้จริงควรเป็นสิ่งที่คุณให้ความสำคัญที่สุด มีหลากหลายวิธีในการหาประสบการณ์ดังกล่าว: [18]
    • เรียนการเขียนโปรแกรมด้วยตัวเองผ่านการเรียนออนไลน์ หรือจากเพื่อนๆ ที่ยินดีสอนคุณ
    • ลงเรียนคอร์สออนไลน์แบบเปิด (MOOC)
    • ถ้าคุณมีประสบการณ์มาบ้างแล้ว ก็ลองทำงานร่วมกับโปรแกรมเมอร์คนอื่นๆ ใน GitHub
    • โปรแกรมฝึกอบรมการเขียนโค้ดเป็นวิธีเรียนรู้ที่เร็วที่สุดวิธีหนึ่ง ถ้าคุณยินดีที่จะลงทุนเงินและเวลาสักหน่อย ขอเพียงให้แน่ใจว่าคุณได้ศึกษาอย่างดี เพราะโปรแกรมฝึกอบรมบางแห่งก็มีชื่อเสียงที่ไม่ดีนักในแวดวงอุตสาหกรรม และอาจจะไม่คุ้มค่าเงิน
  3. แม้ว่าซอฟต์แวร์จะเป็นวิชาเฉพาะทาง แต่ก็ไม่จำเป็นว่าอาชีพก่อนหน้านี้ของคุณต้องมีความเกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ถึงจะทำให้คุณได้เปรียบ วิศวกรรมซอฟต์แวร์ต้องอาศัยทักษะการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการทำงานเป็นทีม นอกจากนี้ ความคุ้นชินกับอุตสาหกรรมหนึ่งก็ยังสามารถช่วยคุณในการออกแบบซอฟต์แวร์สำหรับอุตสาหกรรมนั้นๆ ได้
    • แม้กระทั่งงานอดิเรกหรือความสนใจอื่นๆ ก็สามารถเป็นโอกาสในการสร้างเครือข่ายได้ หรืออย่างน้อยก็ช่วยเพิ่มแรงผลักดันให้กับงานของคุณได้ ยกตัวอย่างเช่น แอปพลิเคชันเกม ชุดเครื่องดนตรีดิจิตอล หรือซอฟต์แวร์ธุรกิจ
    • ถ้าเป็นไปได้ ก็ทำบางส่วนของงานของคุณให้เป็นระบบอัตโนมัติ สร้างเครื่องมือที่ช่วยทำให้งานต่างๆ เสร็จเร็วขึ้น และทำให้อะไรๆ ง่ายขึ้น หัวใจหลักของวิศวกรรมซอฟต์แวร์ก็คือการแก้ไขปัญหา การเขียนซอฟต์แวร์เป็นเพียงวิธีที่วิศวกรซอฟต์แวร์เลือกมาใช้สำหรับการแก้ไขปัญหา มันมีปัญหาอยู่รอบตัวคุณอยู่แล้ว! ไม่มีเหตุผลใดที่จะทำให้คุณไม่สามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่ตอนนี้เลย
  4. มันเป็นไปได้มากที่คุณจะได้งานเขียนโปรแกรมหลังจากมีประสบการณ์เสริมมาสักหนึ่งหรือสองปี หรือแม้แต่ภายในไม่กี่เดือนถ้าหากคุณทุ่มเทพอ ถ้าคุณมีปริญญาตรีแล้ว ไม่ว่าจะในสาขาใด และมีทักษะการเขียนโค้ด ก็ลองคำนึงถึงการศึกษาต่อปริญญาโทด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์เลย
    • อย่าลืมตระหนักว่านี่เป็นทางเลือกที่มีราคาสูงมาก อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณไม่สามารถสร้างแรงจูงใจให้ตัวเองได้สักเท่าไหร่ และการไปร่วมกับกลุ่มคนหรือการลองทำงานอดิเรกก็ไม่ได้ช่วยมากนัก นี่ก็อาจเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
  5. แทบทุกอุตสาหกรรมต้องการนักพัฒนาซอฟต์แวร์ ดังนั้นเครือข่ายจากงานก่อนหน้านี้ของคุณก็อาจมีค่ามาก นอกจากนี้ ให้ลองไปเข้าร่วมสมาคมวิชาชีพดูบ้าง เช่น IAENG Society of Software Engineering.และ IEEE Computer Society Technical Council on Software Engineering หรือ Association for Computing Machinery คุณยังสามารถเข้าไปดูการนัดพบแถวๆ ที่คุณอาศัยอยู่ หรือตามชุมชนออนไลน์ได้อีกด้วย โลกของซอฟต์แวร์อาจเล็กกว่าที่คุณคิด และการหาเครือข่ายได้ถูกต้องก็สามารถเปิดโอกาสให้คุณได้อย่างมหาศาล
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ชื่อของตำแหน่งงานในอุตสาหกรรมนี้ไม่มีมาตรฐานที่ตรงกันทั้งหมด “นักพัฒนาซอฟต์แวร์” เป็นคำที่ครอบคลุมกว้างๆ ในขณะที่ “วิศวกรรมซอฟต์แวร์” จะเกี่ยวข้องกับการออกแบบและความรู้เฉพาะทางมากกว่า บางบริษัทก็ใช้ชื่อนี้เพื่อทำให้งานเขียนโปรแกรมขั้นต้นฟังดูดีขึ้น[19]
  • ถ้าคุณมีบริษัทในใจที่อยากทำงานด้วย ก็ให้เข้าไปดูเพจอาชีพบนเว็บไซต์ของบริษัทนั้นโดยตรงเลย
  • ใช้วิธีแบบเก่าไปเลย! ฝึกการเขียนโค้ดบนกระดาษก่อนไปลงมือเขียนบนคอมพิวเตอร์!
  • ในการสัมภาษณ์งาน คุณมักจะต้องเขียนโค้ดบนกระดานไวท์บอร์ด ดังนั้น ให้ลองหาเพื่อนมาช่วยดู และฝึกให้ชินกับการเขียนโค้ดบนกระดานไวท์บอร์ด บางบริษัทก็ต้องการให้โค้ดของคุณรันอย่างที่เขียนเลย แต่ส่วนใหญ่แล้วบริษัทจะไม่ได้ต้องการขนาดนั้น
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างดีๆ ในการลางานอย่างกะทันหันลางานแบบเนียนๆ ให้เจ้านายจับไม่ได้ด้วย 20 ข้ออ้างลางานกะทันหันที่ทำให้การลางานน่าเชื่อถือ
ส่งข้อความลาป่วยหาหัวหน้าอย่างไรให้ดูเป็นมืออาชีพส่งข้อความลาป่วยหาหัวหน้าอย่างไรให้ดูเป็นมืออาชีพ
บอกลาเพื่อนร่วมงานบอกลาเพื่อนร่วมงาน
เขียนอีเมลติดตามผลการสมัครงานเขียนอีเมลติดตามผลการสมัครงาน
เป็นดาราหนังโป๊เป็นดาราหนังโป๊
หาสปอนเซอร์หาสปอนเซอร์
จัดงานเลี้ยงอำลาจัดงานเลี้ยงอำลา
ส่งมอบงานต่อส่งมอบงานต่อ
ลาออกอย่างสง่างามลาออกอย่างสง่างาม
เขียนแผนกลยุทธ์สำหรับองค์กรเขียนแผนกลยุทธ์สำหรับองค์กร
เขียนจดหมายธุรกิจถึงลูกค้าเขียนจดหมายธุรกิจถึงลูกค้า
เขียนหนังสือรับรองการทำงานเขียนหนังสือรับรองการทำงาน
เขียนแบบประเมินตนเองเขียนแบบประเมินตนเอง
เขียนรายงานหลังการฝึกงานเขียนรายงานหลังการฝึกงาน
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

Stephen Cognetta, MBA
ร่วมเขียน โดย:
โค้ชการสัมภาษณ์ด้านเทคนิค
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Stephen Cognetta, MBA. สตีเฟน ค็อกเน็ตต้า เป็นผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ Exponent ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเรียนรู้ที่ช่วยให้ผู้คนเตรียมพร้อมและประสบความสำเร็จในการสัมภาษณ์ด้านเทคนิค สตีเฟนเชี่ยวชาญด้านการโค้ชด้านการจัดการผลิตภัณฑ์ วิศวกรรมซอฟต์แวร์ การตลาดผลิตภัณฑ์ การจัดการ การจัดการโครงการด้านเทคนิค และการสัมภาษณ์ด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูล สตีเฟนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีวิทยาศาสตรบัณฑิตสาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง และปริญญาโทบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ก่อนที่จะก่อตั้ง Exponent สตีเฟนเคยทำงานเป็นผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ Google และร่วมก่อตั้ง HackMentalHealth บทความนี้ถูกเข้าชม 4,624 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,624 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา