ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ยินดีด้วย! คุณเพิ่งได้รับเลือกหรือได้รับงานเลขานุการในที่ประชุม คุณรู้วิธีเตรียม จดและนำเสนอรายงานการประชุมไหม? หรือว่าคุณกำลังทำตามกฎของโรเบิร์ตอยู่ [1] หรือจดรายงานแบบที่ไม่ค่อยเป็นทางการอยู่ ต่อไปเป็นวิธีจดรายงานการประชุมที่คุณเอาไปใช้ได้

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

เตรียมการล่วงหน้า

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณต้องจดรายงานการประชุมแบบทางการละก็ให้ถามคนในบริษัทก่อนเลยว่าทางบริษัทใช้รูปแบบตามเว็บไซต์กฎของโรเบิร์ตหรือใช้วิธีจดรูปแบบอื่น ถ้าเป็นการจดแบบไม่เป็นทางการ ก็ให้ไปถามว่าควรจะเพิ่มอะไรในรายงานไหมหรือรูปแบบไหนเป็นรูปแบบที่บริษัทใช้กันอยู่
    • ในฐานะที่คุณต้องจดรายงานการประชุม คุณไม่จำเป็นที่จะต้องชินกับรูปแบบทั้งหมด แต่ว่าถ้าคุณได้สำเนา(หรือยืมจากหัวหน้าก็ได้)รูปแบบรายงานการประชุมมาละก็ มันจะมีประโยชน์มากเลยทีเดียว โดยเฉพาะตอนที่ต้องตอบคำถาม
    • รู้หน้าที่ เลขานุการบางคนจะไม่ได้จดรายงานระหว่างเข้าร่วมการประชุม บางคนก็ได้จดระหว่างประชุมไปด้วย ไม่ว่าจะกรณีใดก็ตาม เลขานุการก็ไม่ควรทำงานล้ำเส้น เช่น ท่านประธานการประชุม หรือท่านผู้ช่วย เป็นต้น[2]
  2. การประชุมแต่ละครั้งจะมีรูปแบบของข้อมูลเหมือนๆกัน รูปแบบรายงานการประชุมจะช่วยจัดรูปแบบให้กับข้อมูลพวกนี้ได้[3] Include space for the following information at minimum.[4]
    • ชื่อองค์กรหรือบริษัท
    • รูปแบบการประชุม การประชุมประจำสัปดาห์หรือประจำปี การประชุมคณะกรรมการขนาดเล็กหรือการประชุมเนื่องในวาระพิเศษ
    • วันเวลาสถานที่ เว้นพื้นที่สำหรับเวลาเริ่มและเวลาสิ้นสุดการประชุด
    • ชื่อของประธานหรือผู้นำการประชุมและชื่อเลขานุการ (หรือผู้ช่วย)
    • รายชื่อ"ผู้เข้าร่วม"และ"ผู้ที่ลาการประชุม" ใบเช็คผู้เข้าร่วมการประชุม เลขานุการต้องเช็คว่าจำนวนผู้เข้าประชุมมีมากพอจะโหวตได้ไหม
    • เว้นที่สำหรับลายเซ็นของคุณ ในฐานะผู้จดรายงานการประชุม คุณต้องเซ็นกำกับทุกครั้งที่จดรายงาน ลายเซ็นอื่นๆอาจจะจำเป็นตอนที่รายงานการประชุมได้รับการตรวจสอบแล้ว แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับกฎของบริษัทแต่ละบริษัท
    • ระเบียบวาระการประชุม (ถ้ามี) ถ้าท่านประธานหรือผู้ช่วยคนอื่นๆไม่ได้ขอให้คุณร่างวาระ พวกเขาก็ควรจะมีวาระอยู่ในมีแล้ว คุณก็ควรจะมีด้วยเพื่อช่วยให้คุณเขียนรายงานการประชุมได้ง่ายขึ้น
  3. คุณควรใช้โน้ตบุ๊คเครื่องที่คุณใช้ถนัด ถ้าคุณต้องจดรายงานการประชุมบ่อยๆ ตั้งค่าโน้ตบุ๊คให้เหมาะกับการจดรายงานการประชุมไปเลย
    • ถ้าคุณจดรายงานการประชุมของการประชุมครั้งที่แล้วแต่รายงานนั้นยังไม่ได้รับการรับรอง ให้คุณนำมันมาเข้าที่ประชุมครั้งใหม่ด้วย
    • เครื่องอัดเสียงสามารถช่วยคุณแกะคำพูดระหว่างประชุมเป็นรายงานการประชุมได้ในภายหลัง แต่ว่าเครื่องอัดเสียงก็มาแทนที่การจดรายงานไม่ได้ ถ้าคุณอัดเสียงระหว่างการประชุม คุณต้องมั่นใจว่าทุกคนโอเคหรือหลีกเลี่ยงการแกะเทปแบบคำต่อคำ
    • เรียนชวเลขเพื่อเพิ่มความเร็วในการจด แต่ว่าคุณไม่ต้องจดทุกคำในที่ประชุม ที่จริงแล้ว อย่าทำด้วยซ้ำ
    • ถ้าคุณโดนเรียกให้จดรายงานการประชุมระหว่างที่ประชุมอยู่ ให้ใช้เครื่องโปรเจคเตอร์หรือแท่นนำเสนอ แล้วอย่าลืมเอาบันทึกที่จดไว้กลับบ้านไปพิมพ์เป็นรายงานด้วย[5]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

จดรายงานการประชุม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าทุกคนมาพร้อมกันแล้ว ให้แจกกระดาษเปล่าให้ที่ประชุมเขียนชื่อและข้อมูลติดต่อลงไป (แจกมากกว่าหนึ่งแผ่น ถ้าเป็นการประชุมขนาดใหญ่) คุณสามารถใช้ข้อมูลเหล่านั้นกรอกในช่องผู้เข้าร่วมการประชุมในรายงานได้ หรือแนบไปกับรายงานการประชุมที่ทำเสร็จสมบูรณ์แล้วก็ได้
    • ถ้าในที่ประชุมมีผู้เข้าร่วมที่คุณไม่คุ้นหน้าหลายคน ให้คุณจดตำแหน่งที่นั่งในที่ประชุมไว้แล้วจดชื่อลงไประหว่างที่ผู้เข้าร่วมการประชุมแนะนำตัว จดไว้ให้ดีแล้วคุณจะสามารถใช้ข้อมูลนี้อ้างอิงชื่อบุคคลได้อย่างถูกต้องเมื่อจำเป็น [6]
  2. กรอกข้อมูลในฟอร์มรายงานการประชุมให้มากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้. ระหว่างรอการประชุมเริ่มให้คุณจดชื่อบริษัท วันเวลาสถานที่และประเภทการประชุม (เช่น ประชุมรายสัปดาห์ ประชุมวาระพิเศษ ฯลฯ) แล้วเมื่อการประชุมเริ่มขึ้น ให้จดเวลาเริ่มด้วย
    • ถ้าคุณไม่มีฟอร์มรายงานการประชุม ให้จดข้อมูลเหล่านี้ลงบนหัวกระดาษจดรายงานการประชุม
    • ถ้าการประชุมเป็นแบบประชุมวาระพิเศษ ให้เก็บใบแจ้งการประชุมจากผู้เข้าร่วมที่เป็นคนเปิดการประชุมด้วย คุณควรเอาเอกสารนี้แนบไปกับรายงานประชุมของคุณ
  3. การประชุมแบบเป็นทางการส่วนใหญ่มักจะเริ่มด้วยญัตติในวาระการประชุมนั้นๆ ขั้นตอนที่จะบอกต่อไปเป็นแค่ตัวอย่าง ถ้าสมมติการประชุมเริ่มด้วยญัตติอื่นๆ คุณก็แค่เปลี่ยนมาจดข้อมูลสำคัญในญัตติอื่นๆนั้น[7]
    • คำสำคัญในการเริ่มญัตติคือ “ผม/ดิฉันมีมติเห็นชอบ” ปกติแล้วจะพูดกันว่า “ผม/ดิฉันมีมติเห็นชอบต่อวาระการประชุมนี้”
    • รายชื่อผู้ให้ผ่านวาระ (ผู้ที่มีมติเห็นชอบ)
    • ผลการลงเสียง ถ้าญัตติได้รับเสียงข้างมาก ให้จดไว้ว่า “ญัตติผ่านที่ประชุม” แต่ถ้าไม่ ให้จดว่า “ญัตติไม่ผ่านที่ประชุม”
    • คุณสามารถขอเอกสารญัตติได้ถ้าคุณไม่สามารถจดมันได้อย่างถูกต้อง หรือถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้น ญัตติการประชุมสับสนมาก ให้คุณแจ้งต่อที่ประชุมว่าสามารถตั้งชื่อญัตติให้เป็นทางการในรูปแบบลายลักษณ์อักษรได้หรือไม่[8]
    • ถ้าคุณเป็นคนร่างวาระการประชุม คุณอาจจะเป็นผู้มีมติเห็นชอบในฐานะเลขานุการที่ประชุม คุณสามารถทำได้ตราบใดการกระทำของคุณไม่ก่อปัญหาใดๆตามมา
  4. ตั้งใจฟังการถกเถียงแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แต่ว่าอย่าไปจดมัน เมื่อการประชุมเข้าสู่ญัตติใหม่ ให้จดเนื้อหาสำคัญของญัตติลงไป
    • จำไว้ว่าแต่ละญัตติจะมีคำสำคัญของมัน ชื่อผู้มีมติเห็นชอบและผลการออกเสียง
    • บางญัตติต้องการผู้สนับสนุนก่อนการลงคะแนนเสียง ถ้ามีใครพูดว่า “ผม/ดิฉันสนับสนุนญัตตินี้” หรือคำพูดทำนองเดียวนั้น ให้จดชื่อคนนั้นในฐานะผู้สนับสนุนญัตติ
    • ถ้าคุณไม่รู้ชื่อของผู้มีมติเห็นชอบหรือต้องการให้ทวนญัตติ ให้กล่าวขออนุญาตที่ประชุมอย่างสุภาพ การจดข้อมูลที่ถูกต้องสำคัญมากพอที่จะให้คุณต้องรบกวนการประชุม
    • ญัตติมีการเปลี่ยนแปลง ให้จดลงไปด้วย เว้นแต่ว่าญัตติที่เปลี่ยนนั้นสร้างความขัดแย้งในที่ประชุม คุณก็ไม่ต้องจดญัตตินั้นลงไป[9]
  5. เมื่อมีรายงาน ใบประกาศหรือเอกสารอ่านออกเสียงอะไรก็ตาม ให้จดชื่อรายงานและผู้รายงานเอาไว้ (หรือชื่อของคณะกรรมการย่อยที่ร่างรายงานนั้นขึ้นมา) ถ้ารายงานพวกนั้นมีญัตติเข้ามาด้วย ก็จดเอาไว้เหมือนคุณกำลังจดรายละเอียดญัตติอยู่
    • คุณควรจะได้รับสำเนาเอกสารหลังจากการประชุมเสร็จสิ้น แต่ถ้าไม่ได้ให้ทำโน้ตไว้ว่าต้องไปขอสำเนารายงานกับผู้รายงานหรือผู้นำการประชุม (ท่านประธาน) ในภายหลัง คุณต้องเอาสำเนารายงานพวกนั้นแนบไปกับรายงานการประชุมด้วย
    • ถ้าไม่ได้สำเนามาจริงๆ ให้จดไว้ว่าต้นฉบับเก็บไว้ที่ไหน เพราะคุณอาจจะต้องขอข้อมูลจากรายงานเหล่านั้นในภายหลัง
    • ถ้าสมาชิกในที่ประชุมรายงานปากเปล่า (แทนการอ่านรายงาน) เขียนจับใจความ อย่าไปจดคำพูดหรือรายละเอียดทั้งหมดที่เขารายงาน[10]
  6. ในที่นี้รวมถึงการตรวจงานที่สั่งไปเมื่อการประชุมที่แล้วด้วย มีใครได้รับมอบหมายให้เขียนจดหมายหรือเปล่า ให้คุณจดชื่อและงานที่พวกเขาได้รับมอบหมาย
    • ความยากง่ายของการจดงานที่ได้รับมอบหมายขึ้นอยู่กับว่าการประชุมเป็นทางการขนาดไหน เพราะบางทีการมอบหมายอาจจะแทรกไปในญัตติไปแล้ว ไม่ได้พูดแยกต่างหาก สำหรับการประชุมที่ไม่เป็นทางการนัก คุณอาจจะต้องตั้งใจฟังให้มากๆแล้วละ เพื่อที่จะได้รู้ว่าเขามอบหมายงานหรือลงมติอะไรไป
    • จดเหตุผลประกอบการลงมติหรืองานด้วย (ถ้ามี)
  7. เมื่อเริ่มกระบวนการทำงาน ให้จดเป้าหมายการทำงาน จุดมุ่งหมายงานและคำสั่งจากท่านประธานด้วย
    • อย่าลืมที่จะอ้างอิงวิธีเขียนการประชุมแบบโรเบิร์ท (ถ้าใช้รูปแบบของเขา) กฎระเบียบต่างๆของบริษัทด้วย
  8. ให้คุณสรุปบทสนทนาในระหว่างการประชุมเมื่อมีคนร้องขอเท่านั้น. เพราะปกติแล้วรายงานการประชุมคือรายงานที่จดว่าทำอะไรบ้างในที่ประชุม ไม่ใช่พูดอะไรไปบ้างในที่ประชุม แต่ถ้ามีคนมาร้องขอ คุณก็ทำสรุปไปให้เขา[11]
    • เมื่อคุณจดบทสนทนาในที่ประชุม เป็นกลางให้มากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ จดประเด็นสำคัญในบทสนทนา ไม่จดความคิดเห็นของแต่ละคน แล้วก็พยายามอย่าใช้คำคุณศัพท์หรือคำขยายต่างๆในการจดด้วย การจดที่ทื่อ ไม่มีสีสัน น่าเบื่อคือการจดบทสนทนาในที่ประชุมที่ดี[12]
    • อย่าอ้างชื่อใครในรายงานสรุปบทสนทนาหรือรายงานสรุปการถกเถียง เพราะอาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมาได้ โดยเฉพาะในหัวข้อที่ยังมีความขัดแย้งรุนแรงอยู่
  9. ถ้าการประชุมโดนเลื่อน ก็ให้จดวันเวลาเอาไว้ อย่าลืมที่จะขอสำเนารายงานหรือไปเตือนใครสักคนให้เขาส่งสำเนามาให้คุณ
    • อ่านบันทึกของคุณคร่าวๆ ตรวจทานว่ามีอะไรผิดไหม ถ้าคุณต้องการถามคำถาม ให้รีบถามก่อนที่พวกเขาจะออกจากที่ประชุม
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

เขียนรายงานการประชุม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เวลาเขียนรายงานการประชุมที่ดีที่สุดคือหลังจากการประชุมทันที เพราะคุณจะยังจำรายละเอียดต่างๆได้ดี[13]
  2. คุณอาจจะพิมพ์รายงานการประชุมลงคอมพิวเตอร์ไปแล้ว ถ้าคุณใช้โน้ตบุ๊คในระหว่างที่ประชุมกันอยู่ แยกไฟล์บันทึกที่คุณจดกับไฟล์รายงานการประชุมทางการออกชัดเจน แล้วคุณจะได้เขียนรายงานโดยเทียบกับบันทึกของคุณได้ตลอดเวลาอีกด้วย
  3. ในแต่ละญัตติหรือประเด็นต่างๆต้องขึ้นหน้ากระดาษใหม่ ตอนที่คุณจัดหน้ากระดาษ คุณควรจะตรวจสอบด้วย[14]
    • พิมพ์ให้ถูกหลักภาษา คำศัพท์สะกดและใช้อย่างถูกต้อง ถ้าไม่มั่นใจก็ไปตรวจสอบซะ
    • ใช้ภาษาให้ลื่นไหลเป็นเนื้อเดียวกัน อย่าเปลี่ยนระดับภาษาไปมา
    • เป็นกลางให้มากเข้าไว้ ความคิดเห็นของคุณไม่ควรจะลงไปอยู่ในรายงานการประชุม คุณต้องเขียนรายงานการประชุมที่เป็นกลางให้ทุกคนในหน่วยงานคุณ
    • ใช้ภาษาที่เรียบง่าย อย่าใช้ภาษาวิบัติ และอย่าใช้คำวิลิศมาหรา
    • เขียนแต่ว่าทำอะไรไปบ้าง ไม่ใช่เขียนบทสนทนาในที่ประชุมลงไป เว้นแต่ว่าคุณถูกร้องขอให้จดเท่านั้น คุณควรจะสนใจว่าในที่ประชุม “ทำ” อะไรมากกว่า “พูด” อะไร
    • ใส่เลขหน้าประกอบด้วย
  4. โดยส่งสำเนาผ่านวิธีติดต่อที่พวกเขาเขียนไว้ ถ้าไม่มีวิธีติดต่อ ให้ผู้นำการประชุมช่วยติดต่อให้
  5. คุณอาจจะต้องอ่านรายงานการประชุมออกเสียงในการประชุมครั้งถัดไปและรอการอนุมัติ ถ้าญัตตินั้นผ่าน ก็จดได้เลยว่ารายงานการประชุมเล่มที่คุณอ่านได้รับการอนุมัติแล้ว[15]
    • ถ้าคุณต้องแก้รายงานการประชุมก่อนที่จะได้รับการอนุมัติ ให้เขียนไว้ที่ตอนท้ายรายงานด้วยว่ารายงานนี้ผ่านการแก้ไข แต่คุณไม่ต้องเขียนรายละเอียดการแก้ไขลงไปนะ
    • ถ้าคุณต้องแก้ไขเนื้อหาญัตติในรายงานการประชุมหลังจากที่ได้รับการอนุมัติแล้ว ไม่ว่าญัตตินั้นจะผ่านที่ประชุมหรือไม่ คุณต้องเอารายละเอียดใหม่นั้นเขียนลงในรายงานการประชุมอย่างละเอียด
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

ใช้แบบฟอร์มรายงานการประชุม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แบบฟอร์มเหล่านี้สามารถช่วยย่นเวลาการเตรียมตัวของคุณ แถมยังลดความผิดพลาดลงได้อีกด้วย
  2. ใช้ช่องค้นหาแล้วอ่านรายละเอียดต่างๆ จนกว่าจะเจออันที่คุณถูกใจ
    • ถ้าคุณต้องการแบบฟอร์มแบบพิเศษ ทั่วไปหรือมาตรฐาน อย่างเช่น หาจนเจอเว็บไซต์ที่มีแบบฟอร์มที่คุณต้องการ ให้คุณคลิกปุ่มดาวน์โหลดโหลดมันลงมาหรือกดคำว่า “ใช้แบบฟอร์ม” ตรวจให้แน่ใจว่าคุณบันทึกแบบฟอร์มที่คุณต้องการในที่ที่คุณหาใช้ได้ง่าย
  3. คุณดาวน์โหลดเสร็จแล้วให้แตกไฟล์ออกแล้วเปิดขึ้นมาด้วยโปรแกรมเวิร์ดหรือเอกเซล เพื่อคุณภาพสูงสุดแล้ว แนะนำให้ใช้เวิร์ดรุ่นใหม่ล่าสุด อัพเดทเวิร์ดจะช่วยให้คุณทำงานง่ายขึ้นและสามารถใช้ลูกเล่นใหม่ๆ ในโปรแกรมได้ด้วย
  4. ใส่ตราบริษัทและตราลิขสิทธิ์ลงไปที่หัวกระดาษ. ลบตราตัวอย่างออก แต่ก่อนลบให้อ่านเงื่อนไขให้แตกฉานก่อนว่าลบได้ไหม คุณคงไม่อยากมีปัญหาทางกฎหมายหรอกใช่ไหม
  5. ในพื้นที่หัวข้อ ให้เน้นย้ำคำว่า “การประชุม” หรือ “กลุ่ม” แล้วพิมพ์ชื่อหัวข้อรายงานการประชุมของคุณ
  6. (ตัวเลือกเสริม) วิธีทำให้แบบฟอร์มรายงานการประชุมของคุณดูดีมีชาติตระกูล มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้นคือ เปลี่ยนสี หรือใช้รูปแบบสำเร็จรูปในเวิร์ด วิธีทำก็ง่ายๆกดไปที่ “เค้าโครงหน้ากระดาษ” แล้วคลิกเลือก “สีและรูปแบบ” หลังจากนั้นคุณจะออกแบบฟอร์มของคุณให้มีสีสันตามที่คุณต้องการได้เลย หรือแม้แต่ทำสีแบบฟอร์มให้เข้ากับสีตราบริษัทก็ยังได้
  7. ในหนึ่งแบบฟอร์มควรจะชื่อแต่ละตอนกำกับ บางทีคุณต้องใส่เยอะ บางทีคุณต้องใส่น้อย หรือบางทีคุณอาจไม่ชอบแบบที่เขาทำมาให้ คุณสามารถปรับรูปแบบให้เข้ากับการประชุมของคุณได้เลย
  8. คุณจะได้เอาไปใช้จดรายงานการประชุมได้ ถ้าคุณใช้โปรแกรมเวิร์ด ทุกอย่างก็จะเร็วและง่าย คุณจะสามารถดำเนินการการประชุมได้อย่างเป็นระเบียบและจดเนื้อหาได้อย่างแม่นยำ แต่ถ้าคุณไม่ชอบพิมพ์ในโน้ตบุ๊ค คุณก็สามารถปริ้นแบบฟอร์มออกมาเขียนมือได้เช่นกัน แต่ว่าก่อนปริ้นคุณต้องมั่นใจก่อนว่าในแบบฟอร์มมีพื้นที่มากพอให้คุณเขียน
  9. ยินดีด้วย รายงานการประชุมของคุณเสร็จสมบูรณ์แล้ว เมื่อคุณมีแบบฟอร์มช่วยชี้นำทางแล้ว สมรรถภาพการทำงานและความแม่นยำของคุณที่แสดงออกมาระหว่างการประชุมควรจะมีมากขึ้น ไม่ว่าจะงานอะไรก็ตาม อ่านรายละเอียดในแบบฟอร์มว่ามีอะไรขาดตกบกพร่องไหม เมื่อคุณมั่นใจว่าทุกอย่างถูกต้องแล้ว แบบฟอร์มก็พร้อมใช้ในการประชุมครั้งหน้าได้เลย
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • พิมพ์รายงานการประชุมทันทีที่ประชุมเสร็จ เพราะข้อมูลต่างๆยังคงอยู่ในหัวของคุณ ที่สำคัญคือผู้เข้าร่วมการประชุมจะต้องได้รับสำเนาเอกสารที่เกี่ยวกับพวกเขาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
  • นั่งให้ใกล้กับท่านประธานเท่าที่จะทำได้ เพราะจะช่วยคุณได้ยินทุกอย่างได้ชัดเจนขึ้น และคุณสามารถถามคำถามได้โดยไม่ต้องเสียงดังอีกด้วย
  • ขอให้ผู้ร่วมการประชุมเขียนญัตติต่างๆ ให้คุณก่อน คุณจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปจดมันตอนระหว่างที่ประชุมอยู่
  • เก็บไฟล์รายงานการประชุมไว้ในที่ที่ปลอดภัย
  • อย่าได้กลัวที่จะรบกวนการประชุมเพื่อถามข้อสงสัย
  • รายงานการประชุมเป็นเอกสารที่สำคัญมาก เพราะเอกสารเหล่านี้สามารถเก็บและใช้อ้างอิงได้เป็นปีๆ อย่างเช่น ชื่อเสียงของบางคนก็สามารถอ้างอิงกับรายงานการประชุมได้ เป็นต้น
  • อย่าลืมไปศึกษากฎของโรเบิร์ตในส่วนของเลขานุการเพิ่มเติม
  • เขียนทุกอย่างตามที่เกิดขึ้นจริง ถ้ามีหัวข้อซ้ำขึ้นมา อย่าเขียนรวมกัน ให้แยกกันออกมา
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าใส่เนื้อหาลงไปในรายงานการประชุมมากเกินไป แม้ว่าเจ้านายคุณจะสั่งให้คุณจดเนื้อหาระหว่างที่ถกเถียงกันด้วย เขียนให้สั้นได้ใจความเข้าไว้ บังคับตัวเองให้จดแต่เนื้อไม่เอาน้ำเข้าไว้
  • อย่าตีความหรือใส่ความรู้สึกตัวเองลงไปในรายงานการประชุม
  • ถ้าบางญัตติในที่ประชุมตกไปเพราะเรื่องสิทธิทนายและลูกความ “อย่า”จดญัตตินั้น ให้จดไปว่า “ทางตุลาการเห็นชอบให้เป็นสิทธิ์ของทนายและลูกความ” บทสนทนาจะไม่ถูกบันทึกไว้[16]
  • ถ้าคุณต้องจดรายงานการประชุมลับระหว่างทนายและลูกความ ให้จด”แยก”ออกมาต่างหากและเก็บแยกกับรายงานการประชุมทั่วไป ทำสัญลักษณ์ว่าเป็นลับแล้วระบุผู้ที่เข้าถึงรายงานนี้ได้อย่างชัดเจน[17]
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างดีๆ ในการลางานอย่างกะทันหันลางานแบบเนียนๆ ให้เจ้านายจับไม่ได้ด้วย 20 ข้ออ้างลางานกะทันหันที่ทำให้การลางานน่าเชื่อถือ
ส่งข้อความลาป่วยหาหัวหน้าอย่างไรให้ดูเป็นมืออาชีพส่งข้อความลาป่วยหาหัวหน้าอย่างไรให้ดูเป็นมืออาชีพ
บอกลาเพื่อนร่วมงานบอกลาเพื่อนร่วมงาน
เขียนอีเมลติดตามผลการสมัครงานเขียนอีเมลติดตามผลการสมัครงาน
เป็นดาราหนังโป๊เป็นดาราหนังโป๊
หาสปอนเซอร์หาสปอนเซอร์
จัดงานเลี้ยงอำลาจัดงานเลี้ยงอำลา
ส่งมอบงานต่อส่งมอบงานต่อ
ลาออกอย่างสง่างามลาออกอย่างสง่างาม
เขียนแผนกลยุทธ์สำหรับองค์กรเขียนแผนกลยุทธ์สำหรับองค์กร
เขียนจดหมายธุรกิจถึงลูกค้าเขียนจดหมายธุรกิจถึงลูกค้า
เขียนหนังสือรับรองการทำงานเขียนหนังสือรับรองการทำงาน
เขียนแบบประเมินตนเองเขียนแบบประเมินตนเอง
เขียนรายงานหลังการฝึกงานเขียนรายงานหลังการฝึกงาน
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

วิกิฮาวเป็น "wiki" ซึ่งหมายความว่าบทความหลายๆ บทความของเรานั้นเป็นการร่วมมือกันเขียนของผู้เขียนหลายคน ในการเขียนบทความชิ้นนี้ ผู้คน 50 คน ซึ่งบางคนไม่ขอเปิดเผยตัว ได้ร่วมกันเขียนและปรับปรุงเนื้อหาของบทความอย่างต่อเนื่อง บทความนี้ถูกเข้าชม 45,218 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 45,218 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา