X
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้
บทความนี้ถูกเข้าชม 30,247 ครั้ง
ไม่ว่าคุณอยากแกล้งถูกสิงสำหรับเทศกาลฮาโลวีนหรือแค่อยากแกล้งเพื่อนและครอบครัว คุณก็สามารถเรียนรู้วิธีทำตัวเหมือนถูกสิงได้อย่างง่ายดายด้วยการทำตามแนวปฏิบัติสำหรับพฤติกรรมและนิสัยเหล่านี้ จับคู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ๆ กับการแต่งหน้าให้ดูน่าเชื่อ และคุณก็จะดูเหมือนถูกสิงจริงๆ อย่างง่ายดาย
ขั้นตอน
-
เก็บตัว เงียบ และป้องกันตัว. หนึ่งในสัญญาณที่บ่งบอกว่าถูกผีสิงคือการเปลี่ยนแปลงนิสัยอย่างฉับพลัน คนที่มักจะมีความสุขและชอบเข้าสังคมอาจจะกลายเป็นคนเงียบๆ และเก็บตัว ตามด้วยการวางตัวเชิงลบและความเกลียดชัง เงียบให้มากที่สุดและพูดเฉพาะเมื่อมีคนพูดด้วย
- ตอบด้วยน้ำเสียงโทนเดียวและไร้อารมณ์ และป้องกันตัวเองเมื่อถูกถามเกี่ยวกับพฤติกรรม
- คุณยังสามารถล้อเลียนผู้คนด้วยน้ำเสียงที่ประชดประชันเมื่อเขาพูดกับคุณโดยพูดซ้ำสิ่งที่เขาพูดในน้ำเสียงที่น่ากลัวก่อนที่จะเดินจากไปอย่างชัด
-
แสดงความไม่สนใจในงานอดิเรกทั้งหมด. ทำตัวไม่สนใจตลอดเวลาและดูเหมือนไม่ชอบอะไรเลย เมื่อถูกถามถึงความคิดเห็นหรือเมื่อเพื่อนและครอบครัวพยายามดึงคุณเข้าร่วมบทสนทนาก็ให้ตอบด้วยคำห้วนๆ ว่า “ฉันไม่สนใจ” และทำตาเลื่อนลอย
-
พัฒนาการพูดอย่างฉับพลันและรุนแรง. แสดงความคิดเห็นที่ไม่คาดคิดด้วยความโกรธในระหว่างการสนทนาธรรมดาหรือระหว่างการรับประทานอาหารค่ำเงียบๆ มีปฏิกิริยาที่รุนแรงและก้าวร้าวต่อสิ่งที่สุ่มเสี่ยง ทำให้ดูเหมือนว่าความคิดเห็นและปฏิกิริยาเหล่านี้เกิดขึ้นโดยที่คุณไม่สามารถควบคุมได้
- ดูมึนงงและสับสนหลังจากที่แสดงปฏิกิริยาที่รุนแรงอย่างฉับพลัน[1] มันควรจะจบลงอย่างรวดเร็วพอๆ กับที่มันเริ่มขึ้นซึ่งทำให้ทุกคนที่อยู่รอบตัวคุณรู้สึกมึนงงและสับสน
- เปล่งเสียงของคุณให้ดัง เชือดเฉือน และพูดเร็วกว่าปกติระหว่างที่แสดงปฏิกิริยาที่รุนแรง
- กระตุกเล็กน้อยเหมือนว่าคุณมีอาการกล้ามเนื้อกระตุก
-
ทำให้หน้าดูว่างเปล่าและเหนื่อยล้า. เดินไปรอบๆ ในสภาพที่น่ากลัวเหมือนว่าคุณกำลังเดินละเมอ ดูอ่อนเพลียและไร้เรี่ยวแรงเหมือนว่าคุณนอนหลับไม่สนิทหรือกินอาหารไม่เพียงพอ
- เมื่อใครบางคนหยุดคุณหรือพยายามดึงดูดความสนใจของคุณก็ให้หรี่ตาเล็กน้อยและจ้องเขาโดยไม่พูดอะไรก่อนที่จะทำหน้าว่างเปล่าอีกครั้ง
- อย่าทำเยอะเกินไป คุณต้องดูเหนื่อยและเบื่อเล็กน้อย ถ้าคุณทำเยอะเกินไป มันจะดูไม่น่าเชื่อถือ
-
ทิ้งหนังสือและภาพที่เป็นหลักฐานไว้เกลื่อนกลาด. ทิ้งหนังสือเกี่ยวกับความลี้ลับและภาพวาดสัญลักษณ์แปลกๆ ในที่ที่ผู้คนจะเห็น ทำสัญลักษณ์บนแผ่นกระดาษซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหมือนว่าคุณตกอยู่ในภวังค์จนกระทั่งปากกาของคุณทำกระดาษขาด ดูงงๆ กับสิ่งนี้
- ทิ้งสิ่งของเหล่านี้ให้น้อยที่สุดแค่ 1 หรือ 2 ชิ้น ถ้าจู่ๆ ห้องของคุณเต็มไปด้วยคริสตัล ไพ่ทาโรต์ และอุปกรณ์ลี้ลับอื่นๆ มันก็จะไม่น่าเชื่อเท่าที่ควร
- สิ่งเหล่านี้จะปลูกฝังความคิดของเพื่อนและครอบครัวของคุณว่ามีบางสิ่งที่เลวร้ายเกิดขึ้นกับคุณ แต่มันจะไม่เกินเลยจนแผนของคุณแตก
-
ทำสิ่งที่น่าตกใจในที่สาธารณะ. นั่งบนเก้าอี้โดยหันหน้าเข้าหากำแพงและหัวเราะกับตัวเองอย่างบ้าคลั่ง คุยอย่างเมามันคนเดียวในมุมมืด โยกไปมาอย่างเป็นจังหวะในขณะที่พูดคำซ้ำๆ เบาๆ ส่งเสียงฟู่ใส่ผู้คนเมื่อคุณเดินตามพวกเขา
- นี่คืออีกส่วนที่คุณต้องไม่ทำเยอะเกินไปเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ เริ่มด้วยการตีตัวออกห่างและทำบ่อยขึ้นและแปลกขึ้นตามเวลา
- คุณยังต้องไม่ทำตัวเยอะเกินไปเพราะคุณอาจจะเกิดปัญหาที่โรงเรียนหรือที่ทำงาน สิ่งนี้จะทำให้การแกล้งของคุณหมดสนุก
โฆษณา
-
ทาคอนซีลเลอร์สีซีดบนใบหน้า ลำคอ และริมฝีปาก.[2] เลือกคอนซีลเลอร์สีอ่อนกว่าสีผิวธรรมชาติอย่างน้อยสองสามเฉด อย่าลืมทาเครื่องสำอางให้สม่ำเสมอเพื่อให้ได้สีซีดที่เหมาะสม คุณยังสามารถเติมครีมหรือแป้งทาหน้าสีขาวชนิดที่ขายในวันฮาโลวีนทับคอนซีลเลอร์เพื่อเพิ่มความสว่างมากขึ้น
- เพื่อให้โทนสีผิวของคุณดูสม่ำเสมอและซีดอย่างน่าเชื่อถือก็ให้ทาคอนซีลเลอร์/เครื่องสำอางสีขาวที่หน้าอก มือ และผิวบริเวณอื่นๆ
- ปัดบริเวณที่คุณทาเครื่องสำอางสีขาวเบาๆ ด้วยแป้งโปร่งแสง วิธีนี้จะช่วยให้เครื่องสำอางอยู่ตัวและติดทนนานมากขึ้น
-
ทาอายแชโดว์เนื้อแมทสีน้ำตาล สีเทา หรือสีม่วงใต้ดวงตา. [3] ใช้แปรงอายแชโดว์เพื่อทาอายแชโดว์เนื้อแมทสีน้ำตาลและสีม่วงใต้ดวงตาเพื่อให้ดูลึกและกลวง เติมอายแชโดว์สีเทาเล็กน้อยได้ดวงตาเพื่อเพิ่มมิติ
- สำหรับลุคที่ดูจัดเต็มมากยิ่งขึ้นก็ให้ทาอายแชโดว์ที่มุมด้านในของดวงตา เปลือกตา และรอยพับของดวงตา
- ทาอายแชโดว์สีดำเล็กน้อยที่มุมด้านในของดวงตานอกเหนือจากอายแชโดว์สีม่วง สีน้ำตาล และสีเทาเพื่อให้ได้ลุคที่น่าทึ่ง [4]
-
คอนทัวร์โหนกแก้ม.[5] ปัดอายแชโดว์เนื้อแมทสีน้ำตาลหรือสีเทาใต้โหนกแก้มเป็นเส้นตรง วิธีนี้จะทำให้ใบหน้าของคุณดูผอมแห้งไร้สารอาหาร เกลี่ยเครื่องสำอางให้ดี
- เป้าหมายคือให้ดูสุขภาพไม่ดี ไม่ใช่เพื่อให้รู้ว่าคุณแต่งหน้าเพื่อให้ได้ลุคนี้
- แนวคอนทัวร์ที่คุณวาดควรเริ่มที่ไรผมด้านบนของแก้มและตามโหนกแก้มลงมาโดยเว้นระยะห่างจากปากประมาณ 1 นิ้วในแต่ละข้าง
-
แต่งตา แก้ม และจมูกด้วยเครื่องสำอางสีแดง. ทาลิปสเตนหรืออายแชโดว์สีชมพู สีแดงเข้ม หรือสีแดงที่เปลือกตา มุมด้านในของดวงตา และใต้ตา เติมสีแดงเล็กน้อยที่ปลายจมูก ใช้ดินสอเขียนขอบปากสีแดงเพื่อทำให้ขอบตาล่างของคุณแดงขึ้น (ขอบตาล่างด้านในเหนือขนตา) ซึ่งจะทำให้คุณดูป่วยและอ่อนเพลีย
- เกลี่ยเครื่องสำอางสีแดงบนใบหน้าให้ดีเพื่อให้มันดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น คุณคงไม่อยากให้มันดูชัดเจนเกินไปว่าคุณแต่งหน้า
- เมื่อคุณใช้ดินสอเขียนขอบปากสีแดงเขียนขอบตาล่างแล้วก็ให้ใช้ปลายคอตตอนบัดเกลี่ยเบาๆ วิธีนี้จะช่วยเกลี่ยและทำให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
-
ทำให้รอยบนใบหน้าชัดเจนและลึกมากขึ้น. [6] ใช้แปรงหัวตัดเฉียงเล็กๆ ลงอายแชโดว์เนื้อแมทสีน้ำตาล (หรือสีเทา) ที่โครงและรอยพับของใบหน้า เน้นรอยที่มาจากข้างจมูกไปยังข้างปากและที่ลงมาจากปลายปากเมื่อคุณขมวดคิ้ว
- อย่าลืมทำให้รอยระหว่างคิ้วของคุณเข้มขึ้นเมื่อคุณขมวดคิ้ว รวมถึงรอยบนหน้าผากของคุณเมื่อคุณเลิกคิ้วให้สูง
- การทำให้รอยบนใบหน้าชัดเจนและลึกมากขึ้นจะทำให้คุณดูซีดเซียว หมดแรง และโกรธ [7]
- ใช้เครื่องสำอางแบบที่ไม่ให้ดูเข้มหรือชัดเกินไป
-
วาดเส้นเลือดบนแก้มและหน้าผาก. ใช้แปรงหัวตัดเฉียงและอายแชโดว์สีฟ้าหรือสีเขียวเพื่อวาดเส้นเลือดบนแก้มและหน้าผากเบาๆ ให้มือของคุณสั่นเล็กน้อยในขณะที่คุณวาดเส้นเลือดเพื่อความน่ากลัว
- ถ้าคุณอยากให้สีโดดเด่นก็ควรทำให้แปรงหัวตัดเฉียงเปียกเล็กน้อยก่อนจุ่มในอายแชโดว์
- อายแชโดว์เนื้อเจลหรือเนื้อครีมสีฟ้าหรือสีเขียวคือตัวเลือกที่ดีเพื่อวาดเส้นเลือด
-
ใช้แป้งโปร่งแสงหรือแป้งสีขาวปัดใบหน้าเบาๆ. วิธีนี้จะทำให้ "เส้นเลือด" ที่เพิ่งวาดดูเหมือนว่าอยู่ใต้ผิวหนังของคุณ แป้งจะช่วยให้เครื่องสำอางที่เหลือเซ็ตตัวและขจัดความมันวาวออกจากใบหน้า [8]
- ใช้ฟองน้ำแป้งพัฟขนาดใหญ่หรือแปรงปัดแก้มเพื่อลงแป้งเพื่อให้แน่ใจว่าคุณลงแป้งอย่างบางเบาและทั่วถึง
-
ทำให้ริมฝีปากดูแห้งและแตก. จีบปากและเติมเส้นด้วยอายแชโดว์หรือดินสอเขียนขอบตาสีเข้ม ทาอายแชโดว์สีชมพู/สีแดง/สีแดงเข้มที่ขอบปากด้านใน วิธีนี้จะช่วยให้ริมฝีปากของคุณดูขาดน้ำและทำให้ภายในปากดูมีเลือดและเป็นลายพร้อย
-
ทำให้ผมของคุณดูมันและเยิ้ม. ใช้น้ำ/สเปรย์ฉีดผมและ/หรือเจลใส่ผมแล้วใช้นิ้วแบ่งผมเป็นช่อๆ เพื่อให้ผมดูยุ่งเหยิงและห้อยลงมาที่ใบหน้า ไว้ผมให้ยาวและยุ่งมากที่สุด
- ถ้าคุณสามารถงดสระผมสัก 2-3 วันได้ สิ่งนี้ก็จะช่วยให้ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น
-
ทำเล็บและปลายนิ้วให้เข้มขึ้นเพื่อให้ดูสกปรก.[9] แปะอายแชโดว์สีดำใต้เล็บและรอบๆ เล็บ ใช้นิ้วลากอายแชโดว์เพื่อให้ "สิ่งสกปรก" ดูหนักหน่วงที่สุดที่เล็บมือและค่อยๆ จางลงตามนิ้ว
- ทาลิควิดลิปสติกสีน้ำตาลแดงนิดๆ รอบๆ หนังกำพร้าเพื่อให้ดูมีเลือดออกเล็กน้อย
โฆษณา
-
ตื่นขึ้นมาด้วยเสียงกรีดร้อง. การฝันร้ายบ่อยๆ เป็นอีกสัญญาณหนึ่งของการถูกผีสิง ฉะนั้นให้แกล้งทำเป็นฝันร้ายบ่อยๆ กรีดร้องอย่างไม่รู้ความและเหวี่ยงไปรอบๆ เพื่อให้คุณดูรุงรังและมีเหงื่อออกเมื่อมีคนมาดูคุณอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เบิกตาให้กว้างเท่าที่จะทำได้และทำสีหน้าหวาดกลัว
- เมื่อถูกถามเกี่ยวกับความฝันก็ให้คุณทำอารมณ์เสียและส่ายหัวอย่างหวาดกลัวเหมือนว่าคุณไม่สามารถแม้แต่จะพูดถึงสิ่งที่คุณได้เห็น
- เวลาที่เหมาะที่สุดคือระหว่างเที่ยงคืนถึงประมาณตีสอง คนอื่นๆ ในบ้านจะยังไม่หลับสนิท ฉะนั้นพวกเขาจะตื่นได้ง่ายขึ้นและตื่นตัวมากขึ้น
-
ฝึกโยคะ ความแข็งแรง และความยืดหยุ่น. คนที่ถูกสิงในภาพยนตร์มักจะมีความสามารถในการงอร่างกาย[10] พวกเขามักจะแสดงความแข็งแกร่งเหนือมนุษย์ คุณสามารถเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นได้ด้วยการเล่นโยคะ การยืดกล้ามเนื้อเบาๆ และการฝึกยกน้ำหนัก
- จัดตัวเองให้อยู่ในท่าบิดเบี้ยวหลังจากที่ “ฝันร้าย” ทำหน้าให้นิ่งที่สุด
- ยืดกล้ามเนื้อในที่ส่วนตัวก่อนที่จะพยายามทำให้ร่างกายบิดงอเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ
- ทำให้ร่างกายบิดงอแบบง่ายๆ คุณน่าจะทำให้คนที่เห็นตกใจอย่างรวดเร็ว
-
แข็งทื่อไม่เคลื่อนไหวและไม่กระพริบตาเป็นเวลานาน. เมื่อคนพยายามคุยกับคุณหรือขยับตัวคุณก็ให้เงียบ ทำตัวแข็ง และทำตาเลื่อนลอย อย่าให้ใครขยับคุณได้ง่ายๆ เมื่อคุณกำลัง "แข็งทื่อไม่เคลื่อนไหว" แกล้งทำเป็นนิ่งไป
- เมื่อคุณหลุดออกมาแล้วก็ให้ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทะเลาะกับทุกคนที่อยากคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้
- แสดงอาการความจำเสื่อมเมื่ออยู่กับคนอื่นและบอกเป็นนัยว่าคุณเสียเวลา
-
ฝึกกลอกตาเพื่อให้เห็นเฉพาะตาขาว. มองไปข้างหน้า จากนั้นจึงมองขึ้นบนให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยไม่ขยับศีรษะ กลอกตาขึ้นจนไม่สามารถขยับได้อีกแล้ว จากนั้นจึงหรี่ตาลงเล็กน้อยเพื่อซ่อนส่วนที่เหลือของตาดำ
- คุณต้องไม่หลับตาสนิทเมื่อทำสิ่งนี้ ฝึกโดยใช้กล้องในโทรศัพท์ ถ่ายวิดีโอและภาพนิ่ง
- บางคนพบว่าการหลับตาก่อนสามารถช่วยได้ หลับตา มองขึ้นไปบนเพดาน (โดยที่ยังหลับตาอยู่) จากนั้นจึงลืมตาโดยที่ยังมองขึ้นไปข้างบน
-
ฝึกทำหน้าบิดเบี้ยวอย่างรุนแรงและการแสดงออกว่าเจ็บปวด. หมอผีกล่าวว่าคนที่ถูกสิงมักจะทำหน้าบิดเบี้ยวอย่างน่ากลัว สีหน้าของพวกเขายังสื่อว่าพวกเขาเจ็บปวด นั่งหน้ากระจกและฝึกทำหน้าบิดเบี้ยวและเจ็บปวด [11]
- เมื่อคุณทำบางสีหน้าได้แล้วก็ให้ทำหลังจาก "ฝันร้าย" และเหตุการณ์แปลกๆ อื่นๆ ที่คุณวางแผนไว้
- ถ้าเป็นไปได้ก็ให้ใช้อุปกรณ์เพื่อพัฒนาการบิดเบี้ยวและการแสดงสีหน้าให้ดียิ่งขึ้น
- ฉากอาเจียนที่คลาสสิกในภาพยนตร์เรื่อง The Exorcist เป็นที่รู้จักอย่างดี ฉะนั้นคุณน่าจะเตรียมซุปถั่วข้นไว้ในการแสดงของคุณด้วย
-
เรียนภาษาใหม่หรือภาษาละตินบางประโยค. ผู้คนมักจะพูดภาษาละตินในภาพยนตร์สยองขวัญ แต่ภาษาต่างประเทศอะไรก็ได้น่าจะทำให้เพื่อนและครอบครัวของคุณตกใจถ้าคุณเริ่มพูดได้ในทันที ถ้าคุณไม่มีเวลาเรียนภาษาใหม่ก็เพียงแค่เรียนภาษาละตินสองสามประโยค
- ประโยคที่ใช้ในภาพยนตร์สยองขวัญส่วนใหญ่คือ “Legio mihi nomen est, quia multi sumus” ซึ่งแปลว่า “ฉันมาเป็นกองทัพเพราะเรามีหลายคน”[12] แม้แต่การพูดภาษาอังกฤษแบบนี้ยังอาจจะเป็นเรื่องที่น่ากลัวสำหรับผู้คน
- ระวังเกี่ยวกับภาษาต่างประเทศถ้าคนใกล้ตัวเรียนภาษาเหล่านี้ คุณคงไม่อยากให้พี่สาวบอกว่าภาษาละตินของคุณมีสำเนียงที่แย่มากและมีไวยากรณ์ที่ไม่ดีเลย
- อีกทางเลือกหนึ่งคือการพูดพล่ามแบบไม่ต่อเนื่องกัน ถ้าคุณจะใช้วิธีนี้ก็พยายามทำเหมือนว่าคุณกำลังพูดภาษาอื่นโดยการหยุดเป็นระยะและใช้การผันคำ "บางคำ"
-
ทำเสียงที่น่าขนลุก. เมื่อผีพูดผ่านคนที่ถูกสิงในภาพยนตร์ เสียงของมันมักจะต่ำมาก น่ากลัว และแหบพร่าเล็กน้อย ทดลองเสียงของคุณเพื่อดูว่าคุณสามารถทำเสียงแปลกๆ และน่ากลัวประเภทใดได้บ้าง ดูวิดีโอการสอนออนไลน์เพื่อเพิ่มช่วงเสียงของคุณโดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้เสียงที่ลึกขึ้น
- อัดเสียงการพูดด้วยเสียงที่น่าขนลุกของคุณโดยใช้โทรศัพท์ ใช้แอปเพื่อทำให้เสียงของคุณฟังดูลึกและน่ากลัวขึ้น จากนั้นจึงเล่นเสียงนี้ตอนดึกหรือเวลาที่คุณอยู่กับคนอื่นๆ
- ใช้การเปล่งเสียงอื่นๆ เช่น การหายใจดังฮืดๆ การเปล่งเสียงคำราม และการกรีดร้อง ใช้เสียงเหล่านี้ระหว่างประโยคหรือคำ
โฆษณา
คำเตือน
- ผู้คนอาจจะคิดว่าคุณมีอาการป่วยทางจิต เช่น โรคซึมเศร้า (สูญเสียความสนใจในสิ่งที่ชอบ ดูเหมือนว่างเปล่าอยู่ข้างใน) หรือความพิการ เช่น ออทิสติก (ซึ่งอาจจะเกี่ยวกับการโยกตัวและการพูดซ้ำคำหรือประโยค) คุณอาจจะถูกพาไปพบแพทย์เพื่อรับการประเมินสุขภาพจิต
- ใครก็ตามที่มีจิตปกติจะรู้ว่าควรเลิกเล่นหลังจากเล่นสักพัก มันจะเป็นความผิดของคุณถ้าคุณไม่มีสามัญสำนึกเพียงพอที่จะเลิกเล่น
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.psychologytoday.com/blog/evil-deeds/201201/the-devil-inside-psychotherapy-exorcism-and-demonic-possession
- ↑ http://www.halloween-website.com/costumes/exorcist.htm
- ↑ http://www.halloween-website.com/costumes/exorcist.htm
- ↑ http://www.halloweenexpress.com/how-to-create-a-frightful-ghoul-makeup-look.php
- ↑ http://www.halloweenexpress.com/how-to-create-a-frightful-ghoul-makeup-look.php
- ↑ http://www.halloween-website.com/costumes/exorcist.htm
- ↑ http://www.halloweenexpress.com/how-to-create-a-frightful-ghoul-makeup-look.php
- ↑ http://www.halloweenexpress.com/how-to-create-a-frightful-ghoul-makeup-look.php
- ↑ http://www.halloween-website.com/costumes/exorcist.htm
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
นักเขียนในทีมวิกิฮาว
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 30,247 ครั้ง
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 30,247 ครั้ง
หมวดหมู่: ศิลปะและความบันเทิง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 30,247 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
โฆษณา